กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เร่งพัฒนาระบบดำเนินคดีความผิดทางพินัยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ยกระดับกระบวนการยุติธรรมให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอี เป็นประธานการประชุมร่วมกับสำนักงานศาลยุติธรรมและสำนักงานอัยการสูงสุด โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและเทคโนโลยีร่วมวางแผนเชื่อมโยงระบบการดำเนินคดีทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างมีประสิทธิภาพ
เป้าหมายของระบบนี้คืออะไร?
การพัฒนาระบบใหม่นี้มีเป้าหมายเพื่อเร่งกระบวนการยุติธรรม ลดขั้นตอนที่ซับซ้อน โดยเฉพาะในคดีที่เกี่ยวกับการปิดกั้นเว็บไซต์ผิดกฎหมาย และการดำเนินคดีกรณีผู้ให้บริการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล การใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยให้สามารถยื่นคำร้อง การพิจารณา และคำสั่งศาลได้ภายในวันเดียว ทั้งยังใช้ลายเซ็นดิจิทัล (Digital Signature) เพื่อรับรองความน่าเชื่อถือ
ในกรณีที่พบเว็บไซต์ผิดกฎหมายยังแพร่หลายอยู่ พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถแจ้งคำสั่งปรับพินัยหรือดำเนินคดีกับผู้ให้บริการที่ละเลยคำสั่งศาลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งขยายการใช้งานระบบนี้ไปยังคดีอาชญากรรมออนไลน์อื่นๆ
ก้าวสำคัญในปี 2568
กระทรวงดีอีเตรียมทดลองระบบเชื่อมโยงการดำเนินคดีทางพินัยในเดือนมกราคม 2568 โดยมุ่งเน้นการใช้เอกสารและพยานหลักฐานอิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อถือได้ พร้อมระบบความปลอดภัยที่ยืนยันตัวตนผ่าน ThaiD หากประสบความสำเร็จ จะขยายการเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกับหน่วยงานราชการอื่น
มุ่งหน้าสู่รัฐบาลดิจิทัล
กระทรวงดีอี ยังสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานภายในหน่วยงานรัฐให้เข้าสู่ระบบดิจิทัล เช่น ระบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (e-Document) และระบบ e-Office โดยใช้บริการคลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC) แบบไม่มีค่าใช้จ่าย ช่วยลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพการบริการประชาชน
การขับเคลื่อนนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของกระทรวงดีอีในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพิ่มความโปร่งใส รวดเร็ว และปลอดภัยในกระบวนการยุติธรรม ตอกย้ำบทบาทสำคัญในการพัฒนา “ประเทศไทย 4.0” อย่างเต็มรูปแบบ
