ซัมซุงเดินหน้าปกป้องมหาสมุทรโลก ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยจาก Galaxy

Share

ซัมซุงเดินหน้าขยายความร่วมมือด้านการอนุรักษ์มหาสมุทรโลก ด้วยการจับมือกับองค์กร Seatrees และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก เพื่อฟื้นฟูแนวปะการังที่เสื่อมโทรมและระบบนิเวศทางทะเลที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มลพิษ และกิจกรรมของมนุษย์ โดยใช้เทคโนโลยีจากสมาร์ทโฟน Galaxy เป็นเครื่องมือสำคัญในการสนับสนุนงานวิจัยและการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมทางทะเล พร้อมเดินหน้าสร้างความยั่งยืนด้วยนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ต่อยอดโครงการรีไซเคิลแหอวน ลดขยะพลาสติกในมหาสมุทร

ตั้งแต่ปี 2022 ซัมซุงได้ริเริ่มโครงการนำแหอวนที่ถูกทิ้งในทะเล หรือที่เรียกว่า “Ghost Nets” มาผลิตเป็นชิ้นส่วนอุปกรณ์ Galaxy เช่น ส่วนประกอบในสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์สวมใส่อื่น ๆ เพื่อลดปัญหาขยะพลาสติกที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้รีไซเคิลแหอวนกว่า 150 ตัน และใช้วัสดุเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของ Galaxy ซึ่งนอกจากจะช่วยลดขยะแล้ว ยังสร้างความตระหนักรู้แก่ผู้บริโภคในเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกด้วย

เทคโนโลยีกล้องเพื่อการอนุรักษ์ใต้น้ำ

ในการฟื้นฟูแนวปะการัง ซัมซุงได้พัฒนาเทคโนโลยีการถ่ายภาพใต้น้ำที่เรียกว่า “Ocean Mode” ซึ่งเป็นโหมดพิเศษบนสมาร์ทโฟน Galaxy ที่ออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพใต้น้ำโดยเฉพาะ เทคโนโลยีนี้ช่วยปรับสมดุลแสงขาว (White Balance) เพื่อลดความเพี้ยนของสี และลดความเบลอของภาพที่อาจเกิดจากการเคลื่อนไหวของน้ำ ทำให้นักวิจัยสามารถบันทึกภาพแนวปะการังได้อย่างคมชัดและมีความละเอียดสูง ข้อมูลที่ได้จะถูกนำไปใช้วิเคราะห์สุขภาพของแนวปะการัง รวมถึงการสร้างแบบจำลอง 3 มิติ เพื่อวางแผนการฟื้นฟูแนวปะการังในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย

ดร.สจวร์ต แซนดิน นักนิเวศวิทยาทางทะเลจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก กล่าวถึงเทคโนโลยีนี้ว่า “การที่ซัมซุงนำเทคโนโลยีมือถือมาประยุกต์ใช้กับงานวิจัยทางทะเล ช่วยเปิดโอกาสให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเก็บข้อมูลได้อย่างกว้างขวางและมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

โครงการฟื้นฟูแนวปะการังในพื้นที่สำคัญ

โครงการนี้ครอบคลุมพื้นที่ทางทะเลที่มีแนวปะการังเสื่อมโทรมอย่างรุนแรง เช่น บาหลีในอินโดนีเซีย เกาะวิติเลวูในฟิจิ และแนวปะการังฟลอริดาคีย์ในสหรัฐอเมริกา โดยซัมซุงและพันธมิตรได้ร่วมกันปลูกปะการังไปแล้วกว่า 11,000 ชิ้น และมีเป้าหมายที่จะขยายโครงการฟื้นฟูนี้ไปยังพื้นที่อื่น ๆ ทั่วโลกในปี 2024

ไมเคิล สจวร์ต ผู้ร่วมก่อตั้งองค์กร Seatrees กล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่างซัมซุง Seatrees และนักวิจัยในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการผสานนวัตกรรมเทคโนโลยีกับความพยายามด้านการอนุรักษ์ เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อมหาสมุทรโลก”

ความสำคัญของการฟื้นฟูมหาสมุทรเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

มหาสมุทรถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบนิเวศโลก เพราะไม่เพียงแต่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตนับล้านสายพันธุ์ แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และรักษาสมดุลของสภาพภูมิอากาศโลก อย่างไรก็ตาม แนวปะการังทั่วโลกกำลังเผชิญวิกฤตจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มลพิษทางทะเล และการประมงที่ไม่ยั่งยืน

ซัมซุงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์มหาสมุทรและการสร้างความยั่งยืนให้กับโลก ด้วยการผสานเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเข้ากับความร่วมมือจากองค์กรและชุมชนทั่วโลก เพื่อให้การฟื้นฟูมหาสมุทรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างผลกระทบเชิงบวกในระยะยาว

มุ่งมั่นสร้างอนาคตที่ดีกว่า

ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างนวัตกรรมที่ไม่เพียงตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค แต่ยังช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับโลก ซัมซุงยืนยันที่จะเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีและขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทั่วโลก เพื่อปกป้องมหาสมุทรและสิ่งแวดล้อมสำหรับคนรุ่นต่อไปอย่างยั่งยืน