นางสาววงศ์อะเคื้อ บุญศล โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า ศูนย์ AOC 1441 (Anti Online Scam Operation Center) เผยข้อมูลตัวอย่างคดีอาชญากรรมออนไลน์ในช่วงวันที่ 27 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา โดยพบว่ามิจฉาชีพใช้วิธีหลอกลวงประชาชนหลากหลายรูปแบบ ส่งผลให้ผู้เสียหายสูญเสียเงินรวมกว่า 25 ล้านบาทใน 5 เคสตัวอย่าง
คดีตัวอย่างและวิธีการหลอกลวง
- หลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล
ผู้เสียหายถูกติดต่อผ่านโทรศัพท์โดยมิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง เพื่อยืนยันการคุ้มครองเงินบำนาญ โดยมีการขอข้อมูลส่วนตัวและให้ทำการสแกนใบหน้าก่อนที่จะมีการตรวจสอบยอดเงินในบัญชี แต่เมื่อผู้เสียหายตรวจสอบพบยอดเงินในบัญชีถูกโอนออกไปจนหมด ทำให้เชื่อว่าตนถูกหลอกลวงเสียหายไป 3,335,051 บาท - หลอกลวงเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล
ผู้เสียหายได้รับข้อความผ่านทาง Line ชักชวนให้ลงทุนเทรดหุ้นสกุลเงินดิจิทัล โดยเริ่มทดลองลงทุนทีละน้อยและได้รับทุนคืนและกำไร เมื่อผู้เสียหายโอนเงินลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก็ไม่สามารถถอนได้ มิจฉาชีพจึงแนะนำให้โอนเงินเพิ่มขึ้นอีกเรื่อย ๆ จนเสียหายไป 3,404,953 บาท - หลอกลวงให้รักแล้วโอนเงิน (Romance Scam)
ผ่านช่องทาง Line ผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากบุคคลที่ใช้โพรไฟล์ชายหนุ่มหน้าตาดีและเริ่มสร้างความสัมพันธ์อันใกล้ชิด จากนั้นมิจฉาชีพชักชวนให้ซื้อหวยสิงคโปร์และแจ้งว่าผู้เสียหายถูกรางวัลใหญ่ แต่เพื่อถอนเงินต้องโอนเงินชำระภาษีก่อน ส่งผลให้ผู้เสียหายสูญเสียเงินไป 5,729,000 บาท - หลอกลวงผ่านการข่มขู่ทางโทรศัพท์ (Call Center Scam)
มิจฉาชีพโทรเข้าหาผู้เสียหายโดยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร เมืองสุรินทร์ แจ้งว่าพี่ชายของผู้เสียหายถูกจับกุมในข้อหายาเสพติดและยึดเครื่องมือสื่อสารทั้งหมด พร้อมทั้งเรียกร้องให้โอนเงินเป็นค่าปิดคดี ผู้เสียหายจึงโอนเงินไป 4,315,810 บาท แต่ภายหลังได้รับการยืนยันว่าพี่ชายไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด - หลอกลวงให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบ
ผู้เสียหายได้รับโทรศัพท์อ้างเป็นพนักงานบริษัทขนส่ง Flash Express แจ้งว่าพัสดุของตนได้รับความเสียหายและจะมีการชดเชย จากนั้นมีการเพิ่มเพื่อนทาง Line ให้กรอกข้อมูลส่วนตัวและบัญชีธนาคาร พร้อมแนะนำให้ติดตั้งแอปพลิเคชันเพื่อรับเงินคืน เมื่อผู้เสียหายปฏิบัติตามคำแนะนำ ระบบแจ้งเตือนใน Mobile Banking พบว่าเงินในบัญชีถูกโอนออกจนหมด ทำให้เสียหายไป 8,395,639 บาท
สถิติการดำเนินงานของ AOC 1441
ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ถึง 31 มกราคม 2568 ศูนย์ AOC 1441 มีสายโทรเข้าเข้ามารวมทั้งสิ้น 1,438,603 สาย เฉลี่ยวันละ 3,141 สาย และระงับบัญชีธนาคารไปแล้ว 504,909 บัญชี เฉลี่ยวันละ 1,214 บัญชี โดยในหมวดหมู่คดีที่มีการระงับบัญชีสูงสุด 5 ประเภท ได้แก่
- หลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ 156,233 บัญชี (30.94%)
- หลอกลวงหารายได้พิเศษ 119,242 บัญชี (23.62%)
- หลอกลวงลงทุน 73,365 บัญชี (14.53%)
- หลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล 48,929 บัญชี (9.69%)
- หลอกลวงให้กู้เงิน 37,289 บัญชี (7.39%)
(และคดีอื่น ๆ อีก 69,851 บัญชี คิดเป็น 13.83%)
ข้อแนะนำเพื่อป้องกันการถูกหลอก
นางสาววงศ์อะเคื้อ บุญศล โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ฝ่ายการเมือง ระบุว่า มิจฉาชีพใช้อุบายต่าง ๆ หลอกลวงผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook และการเพิ่มเพื่อนทาง Line เพื่อชักชวนเข้าร่วมการลงทุนที่ไม่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ จึงขอให้ประชาชนยึดหลัก “4 ไม่”
- ไม่กดลิงก์
- ไม่เชื่อ
- ไม่รีบ
- ไม่โอน
หากมีข้อสงสัยหรือพบว่าตนอาจโดนหลอก กรุณาหยุดทำธุรกรรมและติดต่อสอบถามข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง หรือโทรแจ้งดำเนินการระงับบัญชีผ่านสายด่วน AOC 1441 และแจ้งเบาะแสข่าวปลอมที่หมายเลข 1111 (24 ชม.) นอกจากนี้ ผู้เสียหายยังสามารถติดต่อผ่าน Line ID: @antifakenewscenter หรือเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com