ไชน่า ยูนิคอม ประกาศแผนขยายเครือข่าย 5G-Advanced อย่างเป็นทางการในงาน “Powering the Asian Winter Games with 10 Gbps Connectivity” ณ เมืองฮาร์บิน ประเทศจีน พร้อมตั้งเป้าขยายเครือข่ายครอบคลุม 300 เมืองภายในสิ้นปี 2568 ตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านนวัตกรรมการสื่อสารระดับโลก
แผนปฏิบัติการดังกล่าวมุ่งเน้นให้บริการ 5G-Advanced ใน 39 เมืองหลักและจุดยุทธศาสตร์สำคัญ พร้อมเปิดตัวโปรแกรม 5G-Advanced Xinghuo และ 5G-Advanced Baichuan เพื่อส่งเสริมการใช้งานเฉพาะอุตสาหกรรมและการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไชน่า ยูนิคอม ยังเดินหน้าสร้างพันธมิตรด้านระบบนิเวศของอุปกรณ์ เพื่อผลักดันนวัตกรรมและความร่วมมือทั้งต้นน้ำและปลายน้ำของอุตสาหกรรม 5G ปัจจุบัน บริษัทมีสถานีฐาน 5G ที่ใช้งานร่วมกันกว่า 2 ล้านแห่ง คิดเป็น 40% ของสถานีฐาน 5G ทั่วโลก และมีผู้ใช้งานมากกว่า 290 ล้านราย
5G-Advanced พลิกโฉมอุตสาหกรรมด้วยเครือข่ายอัจฉริยะ
หวัง ลี่หมิน รองผู้จัดการทั่วไป ไชน่า ยูนิคอม กล่าวว่า “เรานำเทคโนโลยี 5G-Advanced และ F5G-Advanced มาพัฒนาเครือข่ายความเร็วสูงระดับ 10 Gbps อัจฉริยะและปลอดภัย รองรับการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างระบบนิเวศ 5G-Advanced และผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของจีน”
เฉา หมิง รองประธานบริษัทหัวเว่ย และประธานฝ่ายโซลูชันไร้สายของหัวเว่ย กล่าวเสริมว่า “5G-Advanced และ AI จะเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมโทรคมนาคม โดยหัวเว่ยมุ่งพัฒนาเครือข่ายสำหรับ AI (Networks for AI) และ AI สำหรับเครือข่าย (AI for Networks) เพื่อลดต้นทุนเครือข่าย เพิ่มประสิทธิภาพ และยกระดับเครือข่ายอัตโนมัติระดับ 4 (Level 4 Autonomous Networks)”
เครือข่ายอัจฉริยะเสริมศักยภาพการแข่งขันกีฬาและสื่อดิจิทัล
ในฐานะพันธมิตรหลักของเอเชียนเกมส์ฤดูหนาวครั้งที่ 9 ไชน่า ยูนิคอม ติดตั้งเครือข่าย 5G-Advanced ความเร็ว 10 Gbps ครอบคลุมสถานที่แข่งขันหลัก พร้อมทีมวิศวกรกว่า 1,000 คน ดูแลระบบตลอดการแข่งขัน เครือข่ายดังกล่าวช่วยให้การถ่ายทอดสดมีคุณภาพสูง รองรับการสตรีมมิงแบบหลายช่องทางระดับ HD และ VR รวมถึงบริการวิดีโอออนดีมานด์คุณภาพสูงสำหรับผู้ชมทั่วโลก
ประเทศไทยเร่งสู่ยุค 5.5G พลิกโฉมอุตสาหกรรมดิจิทัล
ประเทศไทยเป็นผู้นำด้าน 5G ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และกำลังเข้าสู่ยุค 5.5G ด้วยความร่วมมือระหว่าง AIS, ไชน่า ยูนิคอม และหัวเว่ย ในการพัฒนาโรงงานอัจฉริยะของ Midea ซึ่งเป็นโรงงานแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ใช้ 5G เต็มรูปแบบ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน 15%-20%
เทคโนโลยี 5.5G ช่วยยกระดับการเชื่อมต่อด้วยความเร็วสูงสุด 10 Gbps ความหน่วงต่ำเพียง 1 มิลลิวินาที และการจัดการเครือข่ายอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งจะปฏิวัติอุตสาหกรรม เช่น IoT อัจฉริยะ ระบบยานพาหนะสื่อสารขั้นสูง (V2X) และเมืองอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI
เมื่อประเทศไทยมุ่งสู่ศูนย์กลางดิจิทัลของอาเซียน การลงทุนในเทคโนโลยี 5.5G จะช่วยเสริมศักยภาพเศรษฐกิจดิจิทัล สร้างโอกาสใหม่ให้ธุรกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ