สัมมนา “กิโยตินกฎระเบียบ” เปิดแนวทางปฏิรูปตลาดทุนไทย เพิ่มความเชื่อมั่นนักลงทุน

สัมมนา "กิโยตินกฎระเบียบ" เปิดแนวทางปฏิรูปตลาดทุนไทย เพิ่มความเชื่อมั่นนักลงทุน
Share

สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ร่วมกับ กองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) จัดสัมมนาสาธารณะ “กิโยตินกฎระเบียบ เพื่อยกระดับความเชื่อมั่นของตลาดทุนไทย” โดยนำเสนอผลการศึกษาทบทวนกฎระเบียบตลาดทุน 138 เรื่อง 332 กระบวนการ พร้อมข้อเสนอปฏิรูปกฎหมายเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทย

ปฏิรูปกฎหมาย หนุนการกำกับดูแลให้มีประสิทธิภาพ

ศาสตราจารย์พิเศษ กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เน้นย้ำถึงความสำคัญของการปรับปรุงกฎหมายให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคม โดยเสนอให้พิจารณาการออกกฎหมายแบบ Omnibus ซึ่งจะช่วยลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบกฎหมาย นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นว่า การใช้กฎหมายอย่างจริงจังและมีมาตรการลงโทษที่ชัดเจน จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน พร้อมเสนอให้ภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันในการออกแบบกฎหมายที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดทุน

ตลาดทุนไทยเผชิญความท้าทาย กฎระเบียบต้องไม่เป็นอุปสรรค

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ FETCO ระบุว่า ตลาดทุนไทยกำลังเผชิญความท้าทายหลายด้าน ทั้งการขาดแคลนธุรกิจใหม่ที่สามารถดึงดูดนักลงทุน และอุปสรรคจากกฎระเบียบที่ซับซ้อน ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขัน เขาเสนอว่าการปรับปรุงกฎหมายให้มีประสิทธิภาพ จะช่วยส่งเสริมการแข่งขันและทำให้ตลาดทุนไทยพัฒนาอย่างยั่งยืน

3 มาตรการปฏิรูป ลดต้นทุนและเพิ่มความโปร่งใส

ดร.กิรติพงศ์ แนวมาลี หัวหน้าโครงการกิโยตินกฎระเบียบตลาดทุน TDRI เปิดเผยผลการศึกษา ซึ่งเสนอ 3 มาตรการสำคัญ ได้แก่:

  1. เพิ่มความสะดวกและยกระดับความเชื่อมั่น เช่น ปรับให้การส่งหนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้นทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นช่องทางหลัก ลดความซ้ำซ้อนของระบบยืนยันตัวตน KYC และแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มอำนาจให้สำนักงาน ก.ล.ต. สามารถกำกับดูแลสำนักงานสอบบัญชีตลาดทุนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  2. เพิ่มความสะดวกในตลาดตราสารหนี้ เช่น ปรับปรุงข้อจำกัดการโอน Scripless Saving Bond ให้สามารถโอนได้ และแก้ไขกฎระเบียบเพื่อให้พันธบัตรไร้ใบตราสารสามารถใช้เป็นหลักประกันได้
  3. พัฒนากลไกช่วยเหลือผู้เสียหายจากคดีหลักทรัพย์ เช่น ส่งเสริมการดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action) และปรับกระบวนการทางศาลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผลการศึกษาชี้ว่า หากดำเนินการตามข้อเสนอดังกล่าว จะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสได้ถึง 943 ล้านบาทต่อปี และลดต้นทุนการดำเนินงานได้ 96.4 ล้านบาทต่อปี

เวทีเสวนาระดมสมองป้องปราม Market Misconduct

นอกจากนี้ ยังมีการเสวนาในหัวข้อ “กิโยตินกฎระเบียบเพื่อยกระดับมาตรการป้องปรามการกระทำอันไม่เป็นธรรมในการซื้อขายหลักทรัพย์ (Market Misconduct)” โดยผู้เชี่ยวชาญในแวดวงตลาดทุน ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันการปั่นหุ้นและการทุจริตในตลาดหลักทรัพย์

เดินหน้าสร้างตลาดทุนที่โปร่งใสและแข่งขันได้

การสัมมนาครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการปรับปรุงกฎหมายตลาดทุนไทยให้มีความทันสมัยและเป็นธรรมมากขึ้น หากทุกภาคส่วนร่วมมือกันในการผลักดันข้อเสนอเหล่านี้ จะช่วยให้ตลาดทุนไทยมีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล

เติบโตอย่างทั่วถึงผ่านการจัดซื้อจัดจ้างที่คำนึงถึงมิติทางเพศ