ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านโครงสร้างแรงงานและปัญหา “Mismatch of Skills” (ทักษะแรงงานไม่ตรงกับความต้องการ) ภาคีนักศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรสำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ได้จับมือกับภาครัฐและภาคเอกชนกว่า 50 บริษัทชั้นนำของไทย เปิดตัวโครงการยิ่งใหญ่ “Future Ready by Future Leader โอกาสจากพี่ เพื่อโอกาสแห่งอนาคต” โดยมีเป้าหมายพลิกโฉมการฝึกงาน สร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงโอกาส และลดอัตราการว่างงานของเด็กจบใหม่ในปี 2568
โครงการนี้ถือเป็นต้นแบบโมเดลใหม่ในการเตรียมความพร้อมเยาวชนทั่วประเทศสู่ตลาดแรงงาน ด้วยการเชื่อมโยงนักศึกษาจบใหม่กับบริษัทชั้นนำ ให้พวกเขาได้เพิ่มพูนทักษะและประสบการณ์จริง เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานมีทักษะ และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและอาชีพ
โมเดลฝึกงานโฉมใหม่: อัปสกิล-แมชชิ่งตรงจุด
พลโททักษิณ สิริสิงห ผู้อำนวยการวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เน้นย้ำว่า วปอ.บอ. มุ่งสร้างผู้นำที่เข้าใจมิติเชิงลึกของสังคมไทย และกล้าลงมือสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อ “ความมั่นคงของชีวิตคนไทย” โดยเฉพาะเยาวชนและแรงงานรุ่นใหม่ โครงการ “Future Ready by Future Leader” จึงเป็นส่วนหนึ่งในการกระจายแนวคิดด้านความมั่นคงนี้สู่สังคม ด้วยการเปิดโอกาสให้เยาวชนทั่วประเทศได้ฝึกงานเรียนรู้จากมืออาชีพตัวจริงในบริษัทชั้นนำอย่างเท่าเทียม
นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) และนักศึกษาหลักสูตร วปอ.บอ. รุ่นที่ 2 เปิดเผยว่า โครงการนี้เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะลดความเหลื่อมล้ำ และเตรียมรับมือความท้าทายด้านประชากร เศรษฐกิจ และสังคมที่ส่งผลให้เกิดปัญหาแรงงานไม่ตรงสาย การว่างงาน และการขาดแคลนแรงงานมีทักษะ ซึ่งสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจมหาศาล
50 ธุรกิจชั้นนำกว่า 150 ตำแหน่งงาน พร้อมสวัสดิการจัดเต็ม
โครงการ “Future Ready by Future Leader” ได้รวบรวมบริษัทชั้นนำกว่า 50 แห่ง ครอบคลุมทั้งกลุ่มอุตสาหกรรม New S-Curve, การผลิต, ดิจิทัล, การบินและโลจิสติกส์, และเชื้อเพลิงชีวภาพ อาทิ บมจ. กัลฟ์ ดีเวลลอปเม้นท์ (Gulf), บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (Bitkub), บมจ.แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี (AIT) และกลุ่มบริษัท พราว กรุ๊ป เป็นต้น เปิดรับนักศึกษาจบใหม่กว่า 150 ตำแหน่งงาน ครอบคลุมหลากหลายสายงาน เช่น ช่าง, พนักงานบริการ, วิศวกร, สัตวแพทย์, และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ โดยผู้ผ่านเกณฑ์จะได้รับการฝึกงานอย่างน้อย 3 เดือน ภายใต้การดูแลจากพี่เลี้ยงมืออาชีพ และตั้งเป้าหมายจ้างงานจริงไม่ต่ำกว่า 10%
สร้างความเท่าเทียม: โควตาพิเศษ 4 จังหวัดชายแดนใต้
เพื่อสร้างความเท่าเทียมแก่แรงงานในพื้นที่ห่างไกล โครงการนี้ยังนำร่องร่วมมือกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดโควตาพิเศษสำหรับเยาวชนจบใหม่ใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดย ศอ.บต. จะคัดเลือกเยาวชนที่มีศักยภาพสูงทั้งด้านวิชาการและทักษะอาชีพ เพื่อเข้าร่วมโครงการและรับสวัสดิการพิเศษช่วยเหลือใน 3 เดือนแรกของการทำงาน ซึ่งคาดว่าจะสามารถพัฒนาแรงงานกลุ่มนี้สู่การเป็นพนักงานประจำได้เช่นกัน และมีแผนจะขยายพื้นที่สร้างความเท่าเทียมในอนาคต
สถิติ JobThai: ความท้าทายที่รอการแก้ไข
นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการของ JobThai เปิดเผยข้อมูลสถิติที่น่าสนใจ โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม – มิถุนายน) มีการยื่นใบสมัครงานจากเด็กจบใหม่สูงถึง 1,486,604 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งงานที่เปิดรับนักศึกษาจบใหม่มีเพียง 20% ของประกาศงานทั้งหมด หรือประมาณ 220,000 ตำแหน่งเท่านั้น
สายงานที่เด็กจบใหม่สมัครมากที่สุด ได้แก่ งานผลิต/ควบคุมคุณภาพ, งานวิศวกรรม, งานช่างเทคนิค, งานธุรการ/จัดซื้อ และงานทรัพยากรบุคคล ขณะที่สายงานที่เปิดรับเด็กจบใหม่มากที่สุดคือ งานขาย, งานช่างเทคนิค, งานผลิต/ควบคุมคุณภาพ, งานวิศวกรรม และงานธุรการ/จัดซื้อ
นางสาวแสงเดือน ชี้ว่า ปัญหา “เด็กจบใหม่หางานยาก” และ “องค์กรหาคนไม่ได้” เกิดขึ้นเนื่องจากหลักสูตรการศึกษายังเน้นทฤษฎีมากเกินไป ในขณะที่ตลาดแรงงานต้องการทักษะใหม่ๆ และ Soft Skills ที่สำคัญ เช่น การทำงานเป็นทีมและการสื่อสาร การส่งเสริมให้เกิดการฝึกประสบการณ์ทำงานจริงจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการเตรียมความพร้อมให้เยาวชนก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน
โอกาสที่ไม่ควรพลาด! สมัครได้แล้ววันนี้
โครงการ “Future Ready by Future Leader” ไม่เพียงแต่เป็นการพัฒนาเยาวชนเท่านั้น แต่ยังเป็นการวางรากฐาน “ความเท่าเทียมทางโอกาส” ให้เยาวชนไทยทุกคนได้พัฒนาทักษะการทำงานที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
