ปตท.สผ. เดินหน้ายุทธศาสตร์เสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัท Hess International Oil Corporation ซึ่งส่งผลให้ ปตท.สผ. เข้าถือสิทธิ 50% ในแปลง A-18 ของพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (Malaysia-Thailand Joint Development Area – MTJDA) ด้วยมูลค่าประมาณ 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นการขยายการลงทุนครั้งสำคัญในแหล่งก๊าซธรรมชาติที่มีศักยภาพสูง และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภาคใต้ของประเทศ
นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ ซึ่งมีผลสมบูรณ์แล้ว จะช่วยเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมและปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติให้กับบริษัทได้ทันที โดยผู้ขายคือบริษัท Hess (Bahamas) Limited และ Hess Asia Holdings Inc. ซึ่งปัจจุบันเชฟรอนเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด หลังจากการควบรวมกิจการระหว่าง Chevron และ Hess
แปลง A-18 เป็นแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติที่สำคัญ โดยปัจจุบันสามารถผลิตก๊าซได้ประมาณ 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งแบ่งส่งเข้าประเทศไทย 300 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หรือคิดเป็นประมาณ 6% ของความต้องการใช้ก๊าซในประเทศ และส่งให้กับมาเลเซียอีก 300 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน การเข้าถือสิทธิในแปลงนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับ ปตท.สผ. ในพื้นที่ MTJDA เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่บริษัทลงทุนอยู่ในแปลง B-17-01 ในสัดส่วน 50% อยู่แล้ว
“ปตท.สผ. มุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ และการขยายการลงทุนใน MTJDA เป็นไปตามยุทธศาสตร์ดังกล่าว” นายมนตรีกล่าว “พื้นที่นี้ไม่เพียงแต่มีศักยภาพปิโตรเลียมสูงและมีแหล่งก๊าซที่ผลิตอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังมีการค้นพบแหล่งก๊าซใหม่อีกหลายแหล่งที่รอการพัฒนา การถือสัดส่วนการลงทุนในทั้งสองแปลงจะช่วยให้เราสามารถบริหารจัดการทรัพยากรร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานของทั้งสองประเทศได้อย่างต่อเนื่องและรวดเร็วยิ่งขึ้น”
สำหรับแผนงานในอนาคต ภายหลังการเข้าซื้อกิจการ บริษัทผู้ดำเนินการมีแผนที่จะเจาะหลุมผลิตและติดตั้งแท่นหลุมผลิตเพิ่มเติม รวมถึงก่อสร้างท่อส่งก๊าซฯ และคอนเดนเสท เพื่อเร่งพัฒนาและผลิตก๊าซจากแปลง A-18 ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
MTJDA ตั้งอยู่บริเวณตอนล่างของอ่าวไทย ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 7,250 ตารางกิโลเมตร ถือเป็นแหล่งทรัพยากรก๊าซธรรมชาติและคอนเดนเสทที่สำคัญของทั้งประเทศไทยและมาเลเซีย ปัจจุบันแปลง A-18 ประกอบด้วยแหล่งก๊าซฯ เช่น จักรวาล ภูมี สุริยา บุหลัน และบุหลันใต้ ซึ่งเริ่มการผลิตตั้งแต่ปี 2548 ในขณะที่แปลง B-17-01 ซึ่ง ปตท.สผ. ถือสัดส่วน 50% ก็ประกอบด้วยแหล่งก๊าซฯ ที่สำคัญเช่น มูด้า ตาปี ตันจุง อมฤต เจ็งก้า เมลาติ และแอนดาลัส ซึ่งเริ่มผลิตก๊าซตั้งแต่ปี 2553 และปัจจุบันสามารถผลิตก๊าซส่งเข้าประเทศไทยและมาเลเซียได้ประมาณ 300 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
