จากสถานการณ์ความไม่สงบที่บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทรู คอร์ปอเรชั่น และ เอไอเอส สองผู้นำด้านโทรคมนาคมของไทย ได้แสดงความห่วงใยและเร่งให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ประสบภัยอย่างเต็มที่
ทรู คอร์ปอเรชั่น มอบเน็ตฟรี โทรฟรี ขยายเวลาชำระค่าบริการ และเสริมทัพสัญญาณ
ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้เดินหน้าให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าทรูและดีแทคในพื้นที่ประสบภัย โดยมอบสิทธิพิเศษต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในยามวิกฤต ดังนี้:
- เน็ตฟรี 10 GB ใช้ได้ 7 วัน: ลูกค้าสามารถกดรับสิทธิ์ได้ที่ 9007162# โทรออก
- โทรฟรี 100 นาที ใช้ได้ 7 วัน: ลูกค้าสามารถกดรับสิทธิ์ได้ที่ 9007161# โทรออก
- สิทธิ์ดังกล่าวสามารถกดรับได้ภายในวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 และสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบเท่านั้น โดยจะได้รับ SMS ยืนยัน
- ขยายวันใช้งาน/ขยายเวลาชำระค่าบริการ: ลูกค้าเติมเงินจะได้รับการขยายวันใช้งานเพิ่ม 7 วัน และลูกค้ารายเดือนจะได้รับการขยายเวลาชำระค่าบริการถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 เพื่อให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง
พื้นที่ที่ได้รับสิทธิ์ครอบคลุม 13 อำเภอใน 4 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ (อำเภอบ้านกรวด), สุรินทร์ (อำเภอกาบเชิง, พนมดงรัก, สังขะ, ปราสาท, บัวเชด), ศรีสะเกษ (อำเภอกันทรลักษ์, ขุนหาญ, ภูสิงห์) และ อุบลราชธานี (อำเภอน้ำยืน, นาจะหลวย, น้ำขุ่น, ทุ่งศรีอุดม)
นอกจากนี้ ทรูยังได้ส่ง รถโมบายล์สถานีฐานเคลื่อนที่เร็ว (Cell-On-Wheel: COW) ไปเสริมสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 5G และ 4G พร้อมติดตั้งบริการ Free Wi-Fi ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งได้ปรับเป็นศูนย์พักพิงสำหรับประชาชนกว่า 10,000 คน รวมถึงแจกซิมการ์ดฟรี 1,000 ซิม และติดตั้งบริการ TrueVisions ในศูนย์อพยพทั้ง 4 จังหวัด เพื่อให้ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อสื่อสารกับญาติ ติดตามข่าวสาร และผ่อนคลายระหว่างการอพยพ
เอไอเอส เคียงข้างคนไทย ส่งถุงยังชีพ เสริมระบบสื่อสาร และดูแลลูกค้าเต็มรูปแบบ
เอไอเอส ในฐานะผู้นำเครือข่ายอัจฉริยะ ได้ระดมทีม “อุ่นใจอาสา” พร้อมศักยภาพโครงข่าย เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างครอบคลุม:
- ระดมพนักงาน “อุ่นใจอาสา”: ร่วมจัดเตรียมสิ่งของจำเป็น อาทิ ถุงยังชีพ น้ำดื่ม และผ้าห่ม ส่งต่อความห่วงใยผ่านความร่วมมือกับกองทัพบกและกองทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบให้ผู้ได้รับผลกระทบ
- สนับสนุนระบบสื่อสารอย่างเต็มกำลัง: ขยายสัญญาณเครือข่ายอย่างเต็มที่ ร่วมกับไทยคมสนับสนุนอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม พร้อมสแตนบายรถโมบาย และทีมวิศวกรดูแลเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงสนับสนุนแพ็กเกจสื่อสารให้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง
- ขยายสัญญาณเครือข่ายในศูนย์อพยพ: ร่วมกับกองทัพบกและกองทัพภาคที่ 2 ขยายสัญญาณเครือข่ายในศูนย์อพยพ 5 แห่งใน 4 จังหวัด ได้แก่ ม.เทคโนโลยีราชมงคล จ.สุรินทร์, ม.ราชภัฏสุรินทร์ จ.สุรินทร์, ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ, ที่ว่าการอำเภอเดชอุดม จ.อุบลราชธานี และสนามช้างอินเตอร์เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
- ดูแลลูกค้าเอไอเอสในพื้นที่ประสบภัย: ขยายเวลาชำระค่าบริการสำหรับลูกค้าเอไอเอสรายเดือนและ AIS FIBRE3 รวมถึงขยายเวลาการใช้งานให้ลูกค้าเติมเงิน นอกจากนี้ ยังปิดบริการ AIS Shop และตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่เสี่ยงชั่วคราว แต่ลูกค้ายังคงสามารถทำธุรกรรมผ่านแอป myAIS ได้ และสำหรับลูกค้าเอไอเอสที่โรมมิ่งอยู่ในกัมพูชา สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉินผ่านสถานเอกอัครราชทูตฯ หรือ AIS Call Center ได้ฟรี 24 ชั่วโมง
ทรูและเอไอเอส ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของภาคเอกชนในการเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือสังคมและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนในยามวิกฤต แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งน้ำใจและความสามัคคีของคนไทย
