กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ออกโรงเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอมที่กำลังแพร่ระบาด โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง “กรมศิลปากรพร้อมให้ทำลายปราสาทเพื่อประโยชน์ทางทหาร เพราะสามารถบูรณะใหม่ได้” ซึ่งถูกจัดให้เป็นข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจสูงสุดประจำสัปดาห์ระหว่างวันที่ 1-7 สิงหาคม 2568 โดยย้ำว่าข่าวนี้เป็นข้อมูลเท็จและอาจสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีโลก

ข่าวปลอมเกี่ยวกับความมั่นคงมาแรงที่สุดในรอบสัปดาห์

นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงดีอี เปิดเผยผลการตรวจสอบข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti-Fake News Center) พบว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวปลอมที่ต้องตรวจสอบกว่า 1,232 ข้อความ และประเด็นที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุดส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับ ความมั่นคงระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกและเข้าใจผิดในสังคม โดยมีข่าวที่น่าสนใจ 10 อันดับแรก ดังนี้:

1. กรมศิลปากรอนุญาตให้ทำลายปราสาทเพื่อประโยชน์ทางทหาร
2. จับสายลับกัมพูชาพร้อมโดรนที่ จ.จันทบุรี
3. โฆษกกลาโหมกัมพูชาขอให้ไทยยุติการบินโดรนเหนือน่านฟ้า
4. ไทยวางแผนลอบสังหารผู้นำกัมพูชา
5. แมงกะพรุนเกยตื้นเป็นสัญญาณเตือนแผ่นดินไหว
6. ลูกระเบิดในกัมพูชาเป็นของที่ไทยซื้อจากอิสราเอล
7. ทหารไทยทำร้ายร่างกายเชลยศึก
8. ไทยส่งโดรนล้ำน่านฟ้ากัมพูชา
9. ทหารไทยสั่งอพยพประชาชนเตรียมบุกก่อนประชุม GBC
10. ผงเสริมโภชนาการ LIVITAS ช่วยล้างพิษตับ

กรมศิลป์ยืนยัน ข้อมูล “ทำลายปราสาทเพื่อประโยชน์ทางทหาร” เป็นเท็จ

สำหรับข่าวปลอมอันดับหนึ่งที่ระบุว่า “กรมศิลปากรพร้อมให้ทำลายปราสาทเพื่อประโยชน์ทางทหาร เพราะสามารถบูรณะใหม่ได้” ทางกระทรวงดีอีได้ประสานงานกับกรมศิลปากรเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และได้รับคำชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นเท็จทั้งสิ้น

กรมศิลปากรไม่เคยมีนโยบายหรือแสดงท่าทีที่จะอนุญาตให้ทำลายโบราณสถานใดๆ ด้วยเหตุผลทางทหาร การอ้างว่าสามารถบูรณะใหม่ได้จึงอนุญาตให้ทำลายได้นั้นเป็นความเข้าใจที่ผิดอย่างสิ้นเชิง เพราะถึงแม้จะมีความสามารถในการบูรณะโบราณสถานให้ใกล้เคียงของเดิมได้ แต่ก็ไม่สามารถทดแทนคุณค่าทางประวัติศาสตร์และจิตวิญญาณของสถานที่ดั้งเดิมได้อย่างแท้จริง การทำลายโบราณสถานโดยเจตนาถือเป็นการละเมิดหลักการอนุรักษ์สากลและทำลายศักดิ์ศรีของชาติอย่างชัดเจน

ดีอีขอเตือนประชาชนให้มีสติในการรับข้อมูลข่าวสารออนไลน์ ควรตรวจสอบข้อเท็จจริงจากแหล่งที่เชื่อถือได้ก่อนที่จะแชร์ต่อ เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของข่าวปลอมที่อาจสร้างความเสียหายและความเข้าใจผิดในวงกว้างได้

กระทรวงดีอีตั้ง “ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมแห่งชาติ” ยกระดับสกัดกั้นเฟคนิวส์ ขอความร่วมมือแพลตฟอร์มโซเชียลร่วมมือปิดกั้น