ทรู คอร์ปอเรชั่น จัดทัพรับมือ “พายุไต้ฝุ่นคาจิกิ” จัดตั้งวอร์รูม 24 ชั่วโมง พร้อมนำบทเรียนจากพายุวิภามาปรับใช้

ทรู คอร์ปอเรชั่น จัดทัพรับมือ “พายุไต้ฝุ่นคาจิกิ” จัดตั้งวอร์รูม 24 ชั่วโมง พร้อมนำบทเรียนจากพายุวิภามาปรับใช้
Share

ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ยกระดับการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์พายุไต้ฝุ่นคาจิกิที่กำลังจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย โดยได้จัดตั้งทีมเน็ตเวิร์กและวอร์รูมฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังและดูแลระบบสื่อสารให้ใช้งานได้ต่อเนื่องในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากพายุ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัยระบบสารสนเทศ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราได้เร่งดำเนินการตามแผนปฏิบัติการฉุกเฉินในทุกพื้นที่เสี่ยง โดยจัดตั้ง War Room ที่ศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ BNIC ซึ่งทำงานร่วมกับระบบ AI เพื่อเฝ้าตรวจสอบและบริหารจัดการเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนสามารถสื่อสารได้ในทุกสถานการณ์”

 

นำบทเรียนจากพายุวิภามาใช้เป็นแนวทาง

จากการที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าพายุคาจิกิจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและพายุดีเปรสชันก่อนเคลื่อนเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและภาคเหนือ ทรู คอร์ปอเรชั่นจึงได้นำกรณีศึกษาและบทเรียนจากการรับมือพายุวิภาเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มาปรับใช้ในแผนรับมือครั้งนี้ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูง เช่น น่าน เชียงราย และ แพร่

หนึ่งในมาตรการสำคัญคือ การเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาไฟฟ้าดับเนื่องจากน้ำท่วม โดยทีมเน็ตเวิร์กได้จัดเตรียมโครงนั่งร้านที่สูงกว่าระดับน้ำท่วมเดิม เพื่อใช้ตั้งเครื่องปั่นไฟและอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงไว้ที่สถานีฐานหลัก เพื่อให้สัญญาณมือถือสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในกรณีที่ไฟฟ้าถูกตัดเพื่อความปลอดภัยของชุมชน

 

มาตรการเร่งด่วนเพื่อรับมือพายุคาจิกิ

ทรู คอร์ปอเรชั่นได้เตรียมมาตรการสำคัญหลายประการเพื่อดูแลระบบสื่อสารให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้แก่

  • จัดเตรียมเครื่องปั่นไฟ น้ำมันสำรอง และแบตเตอรี่ สำหรับสถานีฐานที่อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและไฟฟ้าดับ
  • เตรียมรถโมบายล์สถานีฐาน (Cell-On-Wheel: COW) เพื่อเสริมสัญญาณในจุดที่เกิดวิกฤต
  • เตรียมยานพาหนะ 4WD และเรือท้องแบน สำหรับการเข้าพื้นที่น้ำท่วมที่ยากต่อการเข้าถึง
  • เตรียมอุปกรณ์สำรองและทีมซ่อมบำรุงฉุกเฉิน เพื่อพร้อมแก้ไขปัญหาตลอดเวลา
  • ประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัย และส่งข้อความแจ้งเตือนภัยผ่านระบบ Cell Broadcast Service (CBS) และ SMS ไปยังประชาชนในพื้นที่เสี่ยง

ทรู คอร์ปอเรชั่นยืนยันว่าพร้อมทำงานร่วมกับ กสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชน และจะมุ่งมั่นดูแลระบบสื่อสารให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด แม้ในยามวิกฤต

พลิกโฉมการช่วยเหลือฉุกเฉิน 191 ELS บริการระบุตำแหน่งผู้แจ้งเหตุครั้งแรกในไทย