โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) และโรคหืด (Asthma) ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น “ภัยเงียบ” ที่คร่าชีวิตผู้คนนับล้านทั่วโลกและในไทยอย่างต่อเนื่อง กำลังจะถูกพลิกโฉมครั้งใหญ่ ในงานประชุม Asia COPD & SEA Summit 2025 ที่จัดโดย แอสตร้าเซนเนก้า ผู้นำนวัตกรรมสุขภาพทางเดินหายใจระดับโลก ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจาก 7 ประเทศ ได้เผยแพร่แนวทางการรักษาล่าสุดตาม GOLD Guidelines 2025 พร้อมจุดประกายความหวังด้วย “นวัตกรรมแห่งความหวัง” สองชนิด ได้แก่ Triple Therapy ยาสูดสามพลังในอุปกรณ์เดียว และ ยาชีววัตถุ (Biologics)
ภัยเงียบที่ร้ายแรง: COPD คร่าชีวิตคนไทยวันละ 50 คน
ข้อมูลสถิติเน้นย้ำความเร่งด่วนของปัญหา:
- โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 3 ของโลก มีผู้ป่วยทั่วโลกกว่า 392 ล้านคน และในประเทศไทยมีอัตราผู้เสียชีวิตสูงถึง 20,000 คนต่อปี หรือเฉลี่ยวันละ 50 คน
- โรคหืด (Asthma) มีผู้ป่วยทั่วโลกราว 262 ล้านคน และในไทยมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 8-9 รายต่อวัน หรือกว่า 3,000 รายต่อปี
ศ.นพ.กิตติพงศ์ มณีโชติสุวรรณ จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ชี้ว่า แม้ COPD จะร้ายแรง แต่กลับถูกตระหนักรู้น้อย โดยเฉพาะเมื่อผู้ป่วยต้องทนทุกข์จากภาวะหายใจติดขัดรุนแรง “เสมือนถูกกดใต้น้ำ” สถานการณ์ยิ่งน่ากังวลจากปัญหาฝุ่น PM2.5 และการสูบบุหรี่
Triple Therapy นวัตกรรมสามพลัง คืนลมหายใจให้ผู้ป่วย COPD
หัวใจสำคัญของการรักษา COPD ที่ถูกนำเสนอในงานคือ “Triple Therapy” หรือ ยาสูด (Inhaler) ที่ผสานตัวยาสามชนิด (ยาขยายหลอดลม 2 ชนิด + ยาลดการอักเสบ 1 ชนิด) ไว้ในหลอดเดียว
- การทำงาน: มาพร้อมนวัตกรรม Aerosphere ในรูปแบบละอองยาที่ถูกออกแบบให้กระจายตัวยาสู่ปอดและหลอดลมเล็กได้อย่างสมดุลและตรงจุด
- ประสิทธิภาพ: งานวิจัยยืนยันว่า Triple Therapy ไม่เพียงช่วย ควบคุมอาการและลดการกำเริบ แต่ยังสามารถ ลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนทางหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของผู้ป่วย COPD
ผู้เชี่ยวชาญนานาชาติอย่าง ศ. นพ. ไมเคิล จี. ครูกส์ และ รศ. นพ. เล คัค บ๋าว เห็นตรงกันว่า อันตรายของ COPD ไม่ได้จำกัดแค่ที่ปอด แต่ยังคุกคามถึง ‘หัวใจ’ ด้วย การควบคุมการกำเริบจึงเป็นกุญแจสำคัญ ซึ่งประสบการณ์จากเวียดนามที่ใช้ Triple Therapy มาเกือบ 1 ปี พิสูจน์แล้วว่าช่วยให้ผู้ป่วยควบคุมอาการได้ดีขึ้นและกลับมาใช้ชีวิตใกล้เคียงปกติ ทำให้ Triple Therapy ไม่ใช่แค่ ‘ทางเลือก’ แต่คือ ‘ทางรอด’ ที่ประเทศต่าง ๆ รวมถึงไทย ต้องเร่งทบทวนการเข้าถึง
Biologics ความหวังใหม่สำหรับผู้ป่วย “โรคหืดรุนแรง”
สำหรับ โรคหืด (Asthma) รศ. นพ. ศิวศักดิ์ จุทอง จาก ม.สงขลานครินทร์ เปิดเผยว่า หากควบคุมโรคได้ไม่ดี อาจพัฒนาเป็น ‘โรคหืดรุนแรง’ (Severe Asthma) ที่คร่าชีวิตผู้ป่วยราว 2,000 รายต่อปี
ความก้าวหน้าครั้งสำคัญคือ ยาชีววัตถุ หรือ Biologics
- การทำงาน: ออกฤทธิ์ตรงต่อกลไกการอักเสบของโรคหืดรุนแรงอย่างแม่นยำ
- พลังแห่งความหวัง: ผู้ป่วยที่เคยหอบหนักจนเดินได้ไม่กี่ก้าว กลับมาหายใจโล่งขึ้นและสามารถคว้าเหรียญทองแบดมินตันได้สำเร็จ สะท้อนพลังในการ คืนลมหายใจและความฝัน ให้ผู้ป่วย
รศ. นพ. ศิวศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “คงจะเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างมาก หากนวัตกรรมเหล่านี้ ทั้ง Triple Therapy และยาชีววัตถุ (Biologics) จะสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมและทั่วถึงภายใต้สิทธิการรักษาต่าง ๆ”
การประชุม Asia COPD & SEA Summit 2025 จึงเป็นก้าวสำคัญของแอสตร้าเซนเนก้าในการยกระดับการรักษา และเปลี่ยนมุมมองจากโรคที่ทำให้ตายได้ สู่โรคที่ไม่จำเป็นต้องตาย หากได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที เพื่อ คืนคุณภาพชีวิตและความหวัง ให้ผู้ป่วยอีกนับไม่ถ้วน