ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้เร่งประสานความร่วมมือกับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และเตรียมการร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินจากพายุโซนร้อน “คัลแมกี (KALMAEGI)” ซึ่งคาดการณ์ว่าจะส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ระหว่างวันที่ 7–9 พฤศจิกายน 2568 โดยบริษัทฯ ได้ยกระดับการเตรียมพร้อมเครือข่ายใน 66 จังหวัดเสี่ยงภัยทั่วประเทศ
มาตรการสนับสนุนการแจ้งเตือนภัยและดูแลเครือข่าย
ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมสนับสนุนการแจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงผ่านระบบ Cell Broadcast Service (CBS) และ SMS เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที โดย ปภ. เป็นหน่วยงานหลักในการออกประกาศเตือนภัยและกำหนดรูปแบบข้อความอย่างเป็นทางการ
ทีมงานเน็ตเวิร์กของทรูได้เตรียมความพร้อมสูงสุดตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีมาตรการเร่งด่วนเพื่อรองรับสถานการณ์ดังนี้:
- เสริมกำลังและสำรองพลังงาน: จัดเตรียมเครื่องปั่นไฟ น้ำมันสำรอง และแบตเตอรี่สำรอง สำหรับสถานีฐาน เพื่อให้ระบบสื่อสารสามารถทำงานต่อเนื่องแม้ไฟฟ้าจะถูกตัดจากสถานการณ์อุทกภัย
- รถโมบายล์สถานีฐานเคลื่อนที่เร็ว (COW): จัดเตรียม Cell on Wheels (COW) เพื่อเสริมสัญญาณในจุดวิกฤตที่อาจเกิดความเสียหายต่อเสาสัญญาณหลัก
- การเข้าพื้นที่ประสบภัย: เตรียมยานพาหนะขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) และเรือท้องแบนสำหรับอำนวยความสะดวกในการเข้าพื้นที่ประสบภัย
- ทีมซ่อมบำรุงฉุกเฉิน: จัดทีมซ่อมบำรุงฉุกเฉินพร้อมอุปกรณ์สำรอง เพื่อเข้าแก้ไขปัญหาและกู้คืนระบบสื่อสารให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็วที่สุด
- ศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ: ศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ (BNIC) พร้อมระบบ AI Network Monitoring จะทำหน้าที่ดูแลและบริหารจัดการเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง
พื้นที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษ 66 จังหวัด
จากการประเมินร่วมกับ ปภ. ทรูได้กำหนดพื้นที่เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมเป็นพิเศษใน 66 จังหวัดทั่วประเทศ ครอบคลุมพื้นที่หลักตามภูมิภาค ได้แก่:
- ภาคเหนือ (17 จังหวัด): อาทิ แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, ลำพูน, ลำปาง, พะเยา, แพร่, น่าน, อุตรดิตถ์, ตาก, สุโขทัย, กำแพงเพชร, พิษณุโลก, พิจิตร
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (20 จังหวัด): อาทิ เลย, หนองคาย, บึงกาฬ, หนองบัวลำภู, อุดรธานี, สกลนคร, นครพนม, ชัยภูมิ, ขอนแก่น, มหาสารคาม, กาฬสินธุ์, อุบลราชธานี
- ภาคกลางและตะวันออก (23 จังหวัด): อาทิ กาญจนบุรี, ราชบุรี, สุพรรณบุรี, ชัยนาท, สิงห์บุรี, อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, สระบุรี, นครนายก, ปราจีนบุรี, สระแก้ว, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, ตราด, ปทุมธานี และ กรุงเทพมหานคร
- ภาคใต้ (5 จังหวัด): อาทิ พังงา, ภูเก็ต, กระบี่, ตรัง, และสตูล
ทรู คอร์ปอเรชั่น ยืนยันความพร้อมในการดูแลระบบสื่อสารทั้งมือถือและอินเทอร์เน็ตบ้านให้ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนสามารถติดต่อสื่อสารและรับข่าวสารสำคัญได้แม้ในยามวิกฤต โดยจะเดินหน้าทำงานร่วมกับ กสทช., กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในทุกสถานการณ์