ท่ามกลางการคาดการณ์ของแอร์บัส ที่ระบุว่าภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิกจะมีความต้องการเครื่องบินใหม่สูงถึง 19,560 ลำ ในอีก 20 ปีข้างหน้า ประเด็นสำคัญที่ถูกเน้นย้ำคือกลยุทธ์การทดแทนเครื่องบินเก่าเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน
แอร์บัสระบุว่า กระบวนการทดแทนเครื่องบินรุ่นเก่าอย่าง A330ceo (Current Engine Option) กำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีเครื่องบิน A330ceo ประมาณ 550 ลำ ที่ให้บริการอยู่ในภูมิภาคนี้
A330neo การเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่น
ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการขยายและปรับปรุงฝูงบิน A330neo (New Engine Option) ได้ถูกวางตำแหน่งให้เป็น “ตัวเลือกทดแทนโดยธรรมชาติ” สำหรับรุ่น A330ceo เนื่องจากเครื่องบินรุ่น A330neo มีความคล้ายคลึงกันอย่างมากในด้านปฏิบัติการและการฝึกอบรมนักบิน
การเปลี่ยนผ่านจาก A330ceo ไปสู่ A330neo มอบข้อได้เปรียบที่สำคัญให้กับสายการบิน ดังนี้:
-
ความเหมือนกันในการดำเนินงาน: ช่วยให้สายการบินสามารถเปลี่ยนผ่านได้อย่างราบรื่น ลดความซับซ้อนในการฝึกอบรมนักบินและเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุง
-
ประสิทธิภาพด้านเชื้อเพลิง: A330neo มอบการประหยัดเชื้อเพลิงที่เหนือกว่า ซึ่งช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและสนับสนุนเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
การทดแทนเครื่องบินรุ่นเก่าเป็นส่วนหนึ่งของสัดส่วน 32 เปอร์เซ็นต์ของการส่งมอบเครื่องบินใหม่ในภูมิภาค ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนฝูงบินของสายการบินในเอเชีย–แปซิฟิกให้มีความทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ตามคำกล่าวของ นายอานันท์ สแตนลีย์ ประธานแอร์บัส ประจำภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิก ที่มุ่งมั่นนำเสนอฝูงบินที่ทันสมัยและยั่งยืนให้กับพันธมิตรในภูมิภาค