AIS ร่วมมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการพิเศษ “มาตรการระเบิดสะพานโจร” ทลายเครือข่ายอาชญากรไซเบอร์ชาวจีนที่ใช้เครื่องส่งข้อความปลอม (False Base Station) ส่ง SMS หลอกลวงประชาชน พร้อมแนบลิงก์ปลอมในย่านสุขุมวิท จนสามารถจับกุมผู้กระทำผิดและอุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุได้สำเร็จ
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เปิดเผยว่า การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะในประเด็นการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนและช่วยเหลือเหยื่อได้อย่างทันท่วงที
ปฏิบัติการเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 เมื่อประชาชนร้องเรียนว่าระหว่างเดินซื้อของในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในย่านสุขุมวิท ได้รับข้อความ SMS ระบุว่า “คะแนน 9,268 ของคุณ ใกล้หมดอายุแล้ว! รีบแลกของขวัญเลย” พร้อมแนบลิงก์ที่ตรวจสอบแล้วว่าเป็นลิงก์ปลอม ทีมวิศวกรจาก AIS ตรวจสอบและยืนยันว่าข้อความดังกล่าวไม่ได้มาจากระบบของ AIS และพบว่าคนร้ายใช้เครื่องจำลองสถานีฐานปลอมเพื่อส่งข้อความหลอกลวง
พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. จึงสั่งการให้ตำรวจไซเบอร์ ร่วมกับวิศวกร AIS ดำเนินการติดตามและสืบสวนกว่า 72 ชั่วโมงในพื้นที่สุขุมวิทและนานา จนสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ในรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ พบอุปกรณ์ False Base Station กำลังทำงานอยู่ ซึ่งเป็นเครื่องส่งสัญญาณปลอมที่ดัดแปลงเพื่อเลียนแบบเสาสัญญาณเครือข่ายมือถือ
อุปกรณ์ดังกล่าวถือเป็นเครื่องวิทยุโทรคมนาคมแบบผิดกฎหมาย เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตจาก กสทช. ทั้งยังถูกออกแบบมาเพื่อหลอกลวงประชาชนโดยเฉพาะ การจับกุมครั้งนี้จึงถือเป็นการตัดวงจรสำคัญของขบวนการมิจฉาชีพที่มุ่งเป้าหลอกลวงประชาชนในพื้นที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน
นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า AIS ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูกค้า โดยได้ดำเนินการใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ การสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานรัฐ เช่น ตำรวจไซเบอร์ เพื่อปิดกั้นช่องทางหลอกลวง การพัฒนาเทคโนโลยีแจ้งเบาะแส เช่น บริการ *1185# และสายด่วน 1185 Spam Report Center เพื่อรายงานเบอร์ต้องสงสัย และการสร้างความรู้เท่าทันภัยไซเบอร์ในโครงการ “อุ่นใจไซเบอร์”
ทั้งนี้ AIS ได้เน้นย้ำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการกดลิงก์จาก SMS ที่น่าสงสัย หรือตอบกลับข้อความที่ต้องการข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เลขบัตรประชาชน เลขบัตรเครดิต หรือรหัส OTP หากพบข้อความหรือสายที่เข้าข่ายเป็นการหลอกลวง สามารถแจ้งผ่านสายด่วน 1185 ได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
การจับกุมครั้งนี้เป็นความสำเร็จในการร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อปกป้องประชาชนจากอาชญากรรมไซเบอร์ และ AIS ยืนยันจะเดินหน้าสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าและประชาชนต่อไป