บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญของโครงการ Yunlin ในไต้หวัน หลังสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบครบ 80 ต้น กำลังผลิตรวม 640 เมกะวัตต์ ซึ่งทำให้ Yunlin เป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ความสำเร็จนี้จะทำให้ EGCO Group รับรู้รายได้จากโครงการ Yunlin เต็มปี 2568 เป็นปีแรก และสามารถจ่ายไฟฟ้าสะอาดให้ครัวเรือนไต้หวันกว่า 600,000 หลังคาเรือน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 1.2 ล้านตันต่อปี
ดร.จิราพร ศิริคำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO Group เปิดเผยว่า “ความสำเร็จของ Yunlin เป็นผลจากความร่วมมือของทุกฝ่าย รวมถึงพันธมิตรและธนาคารผู้ให้กู้ การจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบครบ 640 เมกะวัตต์ไม่เพียงช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดในไต้หวัน แต่ยังสนับสนุนเป้าหมายของ EGCO Group ในการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนเป็น 30% ภายในปี 2030 ตามกลยุทธ์ Triple P ที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน และการเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำ”
EGCO Group ถือหุ้น 26.56% ในโครงการ Yunlin ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งแห่งแรกของบริษัท โดยช่วยเพิ่มกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 170 เมกะวัตต์ และคาดว่าจะสร้างกระแสเงินสดเฉลี่ย 2,000 ล้านบาทต่อปี ในช่วง 5 ปีแรกของการดำเนินโครงการเต็มรูปแบบ สะท้อนถึงศักยภาพในการสร้างรายได้ในอนาคต
Yunlin ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบไต้หวัน ห่างจากชายฝั่งมณฑลหยุนหลิน 8-17 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 82 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยกังหันลม 80 ต้น กำลังผลิตต้นละ 8 เมกะวัตต์ มีศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าสะอาด 2,400 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งเพียงพอต่อการใช้ไฟฟ้าของครัวเรือนไต้หวันกว่า 600,000 หลังคาเรือน หรือคิดเป็น 90% ของความต้องการใช้ไฟฟ้าครัวเรือนทั้งหมดในมณฑลหยุนหลิน ทั้งนี้ Yunlin มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว 20 ปีกับ Taipower (Taiwan Power Company)
ปัจจุบัน EGCO Group มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 6,721 เมกะวัตต์ โดย 1,463 เมกะวัตต์มาจากพลังงานหมุนเวียน คิดเป็น 22% ของกำลังผลิตทั้งหมด โรงไฟฟ้าและโครงการของ EGCO Group กระจายอยู่ใน 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งดำเนินธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ESCO, CDI, TPN, ERIE, Innopower และ Peer Power นอกจากนี้ EGCO Group ยังได้รับการจัดอันดับใน Dow Jones Sustainability Index (DJSI) ต่อเนื่อง 5 ปี (2563-2567)