การ์ทเนอร์ เปิดเผย 6 การ์ทเนอร์ เผย 6 เทรนด์ที่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อโครงสร้างพื้นฐานและการปฏิบัติการ (หรือ I&O) ขององค์กรในปี 2568 โดยมุ่งเน้นการสร้างโอกาสให้ผู้นำด้าน I&O สามารถปรับตัวและพัฒนาเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น
เจฟฟรีย์ ฮิววิตต์ รองประธานนักวิเคราะห์การ์ทเนอร์ กล่าวว่า “แนวโน้มต่าง ๆ เหล่านี้เปิดโอกาสให้ผู้นำ I&O สามารถระบุความต้องการด้านทักษะในอนาคตและค้นหาข้อมูลเชิงลึกเพื่อตอบโจทย์ความต้องการสำหรับการนำไปปฏิบัติใช้ โดยเทคโนโลยีเหล่านี้จะสร้างความแตกต่างที่จำเป็นสำหรับองค์กรเพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการปฏิบัติการด้าน I&O ในปี 2568″
1. Revirtualization/Devirtualization
การเปลี่ยนแปลงใบอนุญาตซอฟต์แวร์จากผู้ขายบางรายส่งผลให้ทีม I&O ต้องประเมินและเลือกใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น พับลิกคลาวด์ ดิสทริบิวเต็ดคลาวด์ หรือไพรเวทคลาวด์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไป
2. Security Behavior and Culture Programs (SBCPs)
โปรแกรม SBCPs มุ่งเน้นการพัฒนาพฤติกรรมและวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยในองค์กร เพื่อลดความเสี่ยงจากพฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยของพนักงาน
3. Cyberstorage
โซลูชันไซเบอร์สตอเรจช่วยกระจายและจัดเก็บข้อมูลอย่างปลอดภัย พร้อมสามารถประกอบข้อมูลกลับมาใช้งานได้ทันที ลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและค่าใช้จ่ายด้านกฎระเบียบ
4. Liquid-Cooled Infrastructure
โครงสร้างพื้นฐานที่ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวช่วยรองรับการใช้งานชิปรุ่นใหม่ที่มีความหนาแน่นสูงและตอบสนองต่อความต้องการด้าน AI ที่เพิ่มขึ้น
5. Intelligent Application
แอปพลิเคชันอัจฉริยะที่ใช้ Generative AI สามารถปรับตัวให้เข้ากับบริบทและเจตนาของผู้ใช้ ช่วยลดการแทรกแซงในกระบวนการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพ
6. Optimal Infrastructure
การเลือกโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมที่สุดช่วยให้องค์กรสอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจและการสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง
เจฟฟรีย์ ฮิววิตต์ รองประธานนักวิเคราะห์ของการ์ทเนอร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้จะช่วยให้องค์กรปรับตัวและเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติการ I&O ได้อย่างเต็มศักยภาพในอนาคต