Gartner, Inc. บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาชื่อดังระดับโลก คาดการณ์ว่าในปี 2569 มูลค่าการใช้จ่ายของผู้ใช้งานทั่วโลกสำหรับบริการสื่อสารผ่านดาวเทียมวงโคจรต่ำ (Low Earth Orbit หรือ LEO) จะพุ่งแตะ 14,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเติบโตขึ้นถึง 24.5% จากปี 2568 โดยบริการเหล่านี้กำลังกลายเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ทั้งในกลุ่มธุรกิจและผู้บริโภค

ดาวเทียม LEO: ไม่ใช่แค่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

คุณ Khurram Shahzad ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายนักวิเคราะห์ของ Gartner อธิบายว่า เดิมทีดาวเทียม LEO ถูกใช้เพื่อมอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกลที่เครือข่ายภาคพื้นดินเข้าไม่ถึง แต่ปัจจุบันมีการใช้งานใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทำให้ผู้ให้บริการสื่อสาร (CSPs) ขยายตลาดอย่างรวดเร็ว และผลักดันให้ดาวเทียม LEO กลายเป็นเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่สำคัญสำหรับองค์กร

ด้วยวงโคจรที่อยู่ใกล้โลกมากกว่าดาวเทียมแบบเดิม ทำให้ดาวเทียม LEO ให้การเชื่อมต่อที่รวดเร็วและมีความหน่วงต่ำ สามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายภาคพื้นดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันมีผู้ให้บริการดาวเทียม LEO มากกว่า 20 ราย และคาดว่าจะมีดาวเทียมมากกว่า 40,000 ดวงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ตอกย้ำการเติบโตที่ก้าวกระโดดของตลาดนี้

“เมื่อการใช้งานยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งบริษัทและผู้บริโภคจะสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่สม่ำเสมอและรับรู้ทุกสิ่งที่เชื่อมต่อผ่านเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) ได้จากทุกที่” คุณ Shahzad กล่าวเสริม “ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน เรือ หรือแม้แต่แท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล ทุกอย่างล้วนได้รับประโยชน์จากวิธีการเชื่อมต่อแบบใหม่ที่ยืดหยุ่นและครอบคลุมนี้”

ในปี 2569 การเติบโตที่ใหญ่ที่สุดของบริการสื่อสารดาวเทียม LEO จะมาจากกลุ่มธุรกิจ (Business) และกลุ่มผู้บริโภค (Consumer) ในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีตัวเลือกการเชื่อมต่ออื่น โดยคาดว่ายอดการใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นถึง 40.2% และ 36.4% ตามลำดับ ตามด้วยบริการ LEO สำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตออฟติงส์ (IoT) (32%) การเดินเรือและการบิน (13.8%) และการปรับปรุงความยืดหยุ่นของเครือข่าย (7.7%) (ดูตารางที่ 1)

ตารางที่ 1. มูลค่าการใช้จ่ายของผู้ใช้ปลายทางสำหรับบริการสื่อสารดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) ทั่วโลก, ปี 2568-2569 (หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)

หมายเหตุ: บริการอื่น ๆ รวมถึงการตอบสนองเหตุฉุกเฉิน การเชื่อมต่อในสถานที่ชั่วคราว และคุณภาพอินเทอร์เน็ตแบบสายที่ไม่ดี 

แหล่งที่มา: การ์ทเนอร์ (กรกฎาคม 2568)

4 ประเภทการใช้งานหลักที่ผลักดันการเติบโต

การเติบโตของบริการดาวเทียม LEO ในปี 2569 จะมาจาก 4 ประเภทการใช้งานหลัก โดยกลุ่มธุรกิจและผู้บริโภคในพื้นที่ห่างไกลจะมีอัตราการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นสูงที่สุดถึง 40.2% และ 36.4% ตามลำดับ ซึ่งการใช้งานหลัก ๆ ได้แก่:

1. บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบคงที่และเคลื่อนที่ (Fixed and Mobile Broadband Service): เป็นการใช้งานหลักในระยะแรก โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลหรือสถานที่ชั่วคราว เช่น ไซต์ก่อสร้าง บนเรือ และเครื่องบิน นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นเครือข่ายสำรองเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น เช่น โดรนในออสเตรเลียที่ใช้ดาวเทียม LEO ในการเชื่อมต่อ 4G/5G ระหว่างภัยธรรมชาติ
2. การเชื่อมต่อ IoT ทั่วโลก (Global IoT Connectivity): ดาวเทียม LEO เข้ามาเสริมหรือแทนที่เครือข่าย IoT แบบเดิมสำหรับการใช้งานที่ต้องการความครอบคลุมทั่วโลก เช่น การติดตามทรัพย์สินในภาคเกษตรกรรม การขนส่งและโลจิสติกส์ รวมถึงการทหาร ตัวอย่างเช่น บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในจีนที่ปล่อยดาวเทียม LEO จำนวน 20 ดวงเพื่อปรับปรุงระบบนำทางสำหรับรถยนต์ไร้คนขับ
3. การเสริมบริการอินเทอร์เน็ตมือถือ (Supplementing Mobile Broadband Services): ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อได้แบบไร้รอยต่อผ่านการเชื่อมต่อโดยตรงกับอุปกรณ์ (D2D) และการผสานรวมกับเครือข่าย 5G ตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการในนิวซีแลนด์ที่เปิดบริการ D2D LEO ช่วยให้ลูกค้าสามารถส่งข้อความในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณมือถือได้
4. การเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานแบ็คฮอล (Infrastructure Backhaul): ผู้ให้บริการสื่อสารและองค์กรที่ตั้งอยู่กระจัดกระจายสามารถใช้ดาวเทียม LEO เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลและรองรับการสื่อสารที่สำคัญได้อย่างเสถียรและปลอดภัย โดยไม่ถูกจำกัดด้วยข้อจำกัดของโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดิน

แม้ว่าตลาดดาวเทียม LEO จะมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่คุณ Shahzad เตือนว่าอุตสาหกรรมนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและมีข้อจำกัดบางประการ เช่น อุปสรรคด้านกฎระเบียบ ความจุเครือข่าย และปัญหาด้านการโรมมิ่ง ดังนั้นผู้ให้บริการจึงจำเป็นต้องประเมินกลยุทธ์อย่างรอบคอบโดยคำนึงถึงประเภทการใช้งานเป็นหลัก

ทรู คอร์ปอเรชั่น พลิกเกม ยกเครื่ององค์กรใหม่ ดัน AI เป็นหัวใจหลัก ขับเคลื่อนสู่ผู้นำด้านดิจิทัล