กรุงศรี ตอกย้ำผู้นำธุรกิจญี่ปุ่นในไทย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ สานสัมพันธ์เชื่อมอาเซียนสู่ความยั่งยืน

กรุงศรี ตอกย้ำผู้นำธุรกิจญี่ปุ่นในไทย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ สานสัมพันธ์เชื่อมอาเซียนสู่ความยั่งยืน
Share

กรุงศรี  ย้ำจุดยืนในฐานะธนาคารพันธมิตรที่กลุ่มธุรกิจญี่ปุ่นให้ความไว้วางใจมาอย่างยาวนาน โดยเผยกลยุทธ์ของกลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่น (JPC Banking) สำหรับปี 2568 ที่มุ่งมั่นสานต่อพันธกิจเพื่อสร้างความยั่งยืนทั้งในมิติสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมเร่งเครื่องการลงทุนจากญี่ปุ่นสู่ไทยและอาเซียนผ่านเวที Japan-ASEAN Startup Business Matching Fair 2025 โดยมีเป้าหมายในการผลักดันอุตสาหกรรมหลักใหม่ที่มีศักยภาพสูง เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในภูมิภาค

นายบุนเซอิ โอคุโบะ ประธานกลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่น ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เน้นย้ำว่า กรุงศรีไม่เพียงให้การสนับสนุนทางการเงินเท่านั้น แต่ยังมุ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตในทุกมิติ ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่ครบวงจร ความเชี่ยวชาญในประเทศ รวมถึงเครือข่ายที่แข็งแกร่งของ MUFG ทำให้กรุงศรีสามารถครองใจลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่นได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีความสัมพันธ์ที่ครอบคลุมกว่า 70% ของธุรกิจญี่ปุ่นในประเทศไทย

สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2568 กรุงศรีจะต่อยอดความสำเร็จจากปีที่ผ่านมา และขยายมิติของการเติบโตที่ยั่งยืนให้มากยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด ‘Co-creating New Core Industries’ โดยจะผนึกกำลังกับลูกค้าและภาครัฐในการผลักดันนวัตกรรมและโอกาสทางธุรกิจในอุตสาหกรรมหลักใหม่ ซึ่งได้แก่ ชีวภัณฑ์เพื่อการเกษตร (Bio Green), เซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor), เทคโนโลยีการผลิตอาหาร (Food Technology) และ การเกษตรอัจฉริยะ (Smart Agriculture) ซึ่งล้วนเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต

หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญคือการสานต่อความสำเร็จของงาน Japan-ASEAN Startup Business Matching Fair เวทีจับคู่ธุรกิจสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยในปีนี้ งานได้เปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพดาวรุ่งกว่า 54 ราย จากหลากหลายกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยี AI ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน รวมถึงอุตสาหกรรม เกมและแอนิเมชัน ซึ่งมีศักยภาพในการเป็นซอฟต์พาวเวอร์สำคัญของภูมิภาค นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอเทคโนโลยีป้องกันภัยพิบัติจากญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมการเตรียมพร้อมและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติในระยะยาว ซึ่งงานนี้สามารถสร้างโอกาสในการจับคู่ธุรกิจได้มากกว่า 400 คู่ภายในวันเดียว และกรุงศรียังได้ลงนามความร่วมมือกับ Industrial Technology Investment Corporation เพื่อส่งเสริมสตาร์ทอัพจากไต้หวันสู่ตลาดสากลอีกด้วย

กรุงศรียังให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างศักยภาพธุรกิจผ่านโซลูชันทางการเงินและนวัตกรรมดิจิทัล พร้อมดำเนินงานตามกรอบ ESG โดยในปีที่ผ่านมา ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เงินฝากเพื่อความยั่งยืนแห่งแรก ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าในหลายอุตสาหกรรม อาทิ โตโยต้า ลีสซิ่ง เอจีซี วีนิไทย และโซนี่ ดีไวซ์ เทคโนโลยี รวมถึงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อสังคมแก่โตโยต้า ลีสซิ่ง เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างเท่าเทียม ในปี 2568 กรุงศรีจะยังคงเดินหน้าสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์อย่างต่อเนื่องผ่านความร่วมมือกับภาครัฐ เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และผลักดันสู่แนวปฏิบัติที่ยั่งยืน

นอกจากนี้ กรุงศรียังคงเดินหน้าให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่ พร้อมเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจปัจจุบัน โดยได้ขยายบทบาทในอาเซียนผ่านบริการที่ปรึกษาทางธุรกิจ Krungsri ASEAN LINK และประสบความสำเร็จในการเชื่อมโยงธุรกิจไทยกับธนาคารพันธมิตร ได้แก่ VietinBank ในเวียดนาม Danamon Bank ในอินโดนีเซีย และ Security Bank ในฟิลิปปินส์ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงเครือข่ายและโซลูชันทางการเงินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกไฮไลต์สำคัญคือการจัดงาน Krungsri ASEAN LINK Forum ซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้าธุรกิจและผู้ประกอบการกว่า 200 ราย ตอกย้ำศักยภาพของกรุงศรี MUFG และพันธมิตรในการขยายโอกาสธุรกิจในระดับภูมิภาค นายโอคุโบะกล่าวทิ้งท้ายว่า กรุงศรีจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสนับสนุนธุรกิจญี่ปุ่นและการเติบโตของเศรษฐกิจไทย สานต่อนวัตกรรม เสริมสร้างการเติบโต และยกระดับความร่วมมือระดับภูมิภาค เพื่อสนับสนุนความสำเร็จของลูกค้าและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ พร้อมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจอันดับแรกที่ลูกค้าไว้วางใจ และเป็นแพลตฟอร์มเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

5G-Advanced และ AI ผนึกกำลัง เปิดประตูสู่ยุคแห่งการเชื่อมต่ออัจฉริยะ โอกาสใหม่ไร้ขีดจำกัด