ปตท.สผ. โชว์ผลงานครึ่งปีแรก 2568 สุดแกร่ง กำไรทะลุ 3 หมื่นล้านบาท พร้อมปันผล 4.10 บาทต่อหุ้น หนุนความมั่นคงพลังงานชาติ

ปตท.สผ. โชว์ผลงานครึ่งปีแรก 2568 สุดแกร่ง: กำไรทะลุ 3 หมื่นล้านบาท พร้อมปันผล 4.10 บาทต่อหุ้น หนุนความมั่นคงพลังงานชาติ
Share

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. สร้างความประทับใจด้วยผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2568 ที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดย นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการขยายการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ในต่างประเทศ พร้อมทำกำไรสุทธิกว่า 30,067 ล้านบาท และเตรียมจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสูงถึง 4.10 บาทต่อหุ้น ตอกย้ำบทบาทสำคัญในการเป็น “พลังของพลัง” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

ขยายฐานการลงทุนระดับโลก สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

ปตท.สผ. ยังคงเดินหน้าแสวงหาแหล่งพลังงานใหม่ๆ ทั่วโลก โดยในครึ่งปีแรกนี้ได้สร้างความคืบหน้าครั้งสำคัญ:

  • บุกตลาดแอลจีเรีย: ปตท.สผ. (ถือสัดส่วน 34%) ร่วมกับ Eni Algeria Exploration B.V. ชนะการประมูลและลงนามในสัญญาแบ่งปันผลผลิตใน แปลงสัมปทานเร็กเกนเน่ ทู (Reggane II) ซึ่งมีการค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติแล้ว และมีศักยภาพในการสำรวจเพิ่มเติม ความสำเร็จนี้จะเสริมสร้างความต่อเนื่องเชิงกลยุทธ์กับโครงการแอลจีเรีย ทูอัท (Algeria Touat Project) ที่ ปตท.สผ. ลงทุนอยู่ก่อนหน้า
  • เสริมแกร่งตะวันออกกลาง: ลงนามบันทึกข้อตกลงขยายอายุสัญญาแบ่งปันผลผลิตใน โครงการโอมาน แปลง 53 ไปจนถึงปี 2593 และได้รับอนุมัติแผนพัฒนาโครงการและสัญญาสัมปทานผลิตปิโตรเลียมของ โครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 2 ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) หลังการค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติครั้งสำคัญ ซึ่งเตรียมนำไปสู่การตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID)

ผลประกอบการโดดเด่น หนุนการเติบโตระยะยาว

สำหรับผลประกอบการในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 ปตท.สผ. มี รายได้รวม 148,531 ล้านบาท (เทียบเท่า 4,431 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยมี ปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยอยู่ที่ 494,552 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากครึ่งปีแรกของปี 2567 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติของโครงการ G1/61 และการขายน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นของโครงการมาเลเซีย แปลงเค รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในโครงการสินภูฮ่อม

แม้ราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยจะปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมาอยู่ที่ 44.85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ แต่ด้วยการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี ทำให้มี ต้นทุนต่อหน่วย (Unit Cost) ที่ 30.9 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ส่งผลให้บริษัทมี กำไรสุทธิ 30,067 ล้านบาท (เทียบเท่า 895 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

ปันผลสูงคืนกำไรผู้ถือหุ้น ส่งต่อรายได้สู่รัฐเพื่อพัฒนาประเทศ

จากผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติเสนอจ่าย เงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 ที่ 4.10 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันให้สิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อรับเงินปันผลคือวันที่ 13 สิงหาคม 2568 และจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 สิงหาคม 2568

นอกจากนี้ ปตท.สผ. ยังคงเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยในครึ่งปีแรกนี้ได้ นำส่งรายได้ให้กับรัฐในรูปของภาษีเงินได้ ค่าภาคหลวง และส่วนแบ่งผลประโยชน์อื่นๆ รวมกว่า 30,200 ล้านบาท ซึ่งจะนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ อาทิ การพัฒนาชุมชน การศึกษา และการวิจัยและพัฒนา รวมถึงรัฐยังได้รับส่วนแบ่งผลผลิตปิโตรเลียมจากโครงการ G1/61 และ G2/61 ภายใต้สัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) อีกด้วย

ครบรอบ 40 ปี: “พลังของพลัง” ที่ไม่หยุดนิ่งเพื่อคนไทย

ในเดือนมิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ปตท.สผ. ได้ฉลองครบรอบ 40 ปีแห่งการดำเนินงาน ตลอดสี่ทศวรรษที่ผ่านมา ปตท.สผ. ยืนหยัดในเจตนารมณ์ของรัฐในการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการดำเนินงานกว่า 50 โครงการใน 13 ประเทศทั่วโลก และยังคงมุ่งมั่นแสวงหาแหล่งพลังงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ภารกิจของ ปตท.สผ. คือการเป็น “พลังของพลัง” ที่ไม่เพียงมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ แต่ยังเป็นพลังที่ช่วยให้ทุกคนสามารถก้าวไปสู่เป้าหมายของตนได้สำเร็จ เพื่อรองรับความต้องการใช้พลังงานของคนไทยและประเทศไทยอย่างยั่งยืน

ปตท.สผ. เสริมแกร่งความมั่นคงพลังงานไทย ด้วยการเข้าซื้อหุ้นแปลง A-18 ในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย