บริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด (SBITO) ฉลองครบรอบ 10 ปีแห่งการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างมั่นคง พร้อมประกาศความเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดหุ้นไทยที่ยังมีหุ้นดีน่าลงทุนอีกมาก ภายใต้แนวคิด “SBITO Smart Investor Lifestyle” ที่มุ่งเน้นการเสริมศักยภาพนักลงทุนให้เป็นศูนย์กลาง ผ่านสุดยอดนวัตกรรม SBITO InvestTech
นายคาซึนาริ โอกาวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SBITO เผยว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา SBITO มุ่งมั่นนำเสนอโอกาสการลงทุนที่เหนือกว่า พร้อมค่าคอมมิชชันที่คุ้มค่า เพื่อให้นักลงทุน โดยเฉพาะรายย่อย สามารถสร้างผลกำไรจากการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาบริการใหม่ๆ อย่าง SBITO Futures ROBOT Trade ที่ช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุน รวมถึงการสร้างสรรค์คอนเทนต์และกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจลงทุนด้วยตนเองอย่างมั่นใจและรอบรู้
แม้ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ไทยจะเผชิญกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ แต่ CEO ของ SBITO ยังคงมองเห็นโอกาสและศักยภาพในการเติบโตของตลาดหุ้นไทย
“เราเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสในการเติบโต และ SBITO พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นให้คนไทยหันมาลงทุนมากขึ้น ผ่านบริการที่หลากหลายและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักลงทุน” นายโอกาวะ กล่าวอย่างหนักแน่น
เบื้องหลังความสำเร็จในการยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งตลอดทศวรรษที่ผ่านมา นายโอกาวะ ย้ำถึงกลยุทธ์สำคัญภายใต้แนวคิด “SBITO Smart Investor Lifestyle” ที่ให้ความสำคัญกับ “Investor Centric Principle” หรือการยึดนักลงทุนเป็นศูนย์กลาง เพื่อพัฒนาให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างแม่นยำ ทันเวลา พร้อมทั้งเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการลงทุน และช่วยสร้างผลกำไรที่มากขึ้น สะท้อนได้จากกิจกรรมทางการตลาดที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม อาทิ SBITO Joystick Click to Win, SBITO Game of Trade และ SBITO Shogun Trader Championship รวมถึงการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและการมอบสิทธิพิเศษผ่าน SBITO Privilege App
ยิ่งไปกว่านั้น SBITO ยังได้พัฒนา SBITO InvestTech ซึ่งรวมถึงเครื่องมือ AI และ SBITO Scouter ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถค้นหาหุ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างสภาพแวดล้อมการลงทุนที่ดี พร้อมข้อมูลและเครื่องมือสนับสนุนการตัดสินใจลงทุนอย่างชาญฉลาด
สำหรับก้าวต่อไป SBITO ตั้งเป้าที่จะขยายผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ๆ เพิ่มฐานลูกค้า โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อย และขยายการให้บริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเดินหน้าจัดกิจกรรมและสร้างชุมชนการเรียนรู้เพื่อยกระดับความรู้และทักษะการลงทุนให้กับนักลงทุนทุกระดับ
“ไม่ว่าสถานการณ์ตลาดทุนจะเป็นอย่างไร เรายังคงเชื่อมั่นว่าตลาดทุนไทยเป็นแหล่งลงทุนที่สำคัญและปลอดภัยสำหรับนักลงทุน SBITO มุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ภายใต้แนวคิด SBITO Smart Investor Lifestyle ที่ยึดนักลงทุนเป็นศูนย์กลาง พร้อมเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่จะช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ ถูกต้อง และถูกเวลา” นายโอกาวะ กล่าวทิ้งท้ายอย่างมุ่งมั่น