บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอทีชั้นนำของไทย ประกาศขยายธุรกิจสู่ตลาดหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน หรือโคบอท (Collaborative Robot: Cobot) เพื่อตอบสนองความต้องการในภาคอุตสาหกรรมที่ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน รวมถึงการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีในภาคการศึกษา โดยการเป็นตัวแทนจำหน่ายหุ่นยนต์โคบอทจากบริษัท ดูบอท (Dobot) ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีโคบอท
นายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสไอเอส กล่าวว่า การใช้หุ่นยนต์ในภาคการผลิตและบริการมีความสำคัญมากขึ้นทั่วโลก เนื่องจากสังคมสูงวัยส่งผลให้แรงงานมนุษย์ลดลงอย่างต่อเนื่อง สำหรับประเทศไทย ข้อมูลจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ระบุว่า ประชากรสูงอายุในประเทศมีสัดส่วนถึง 20% หรือประมาณ 13 ล้านคน งานในภาคโลจิสติกส์และสายการผลิตซึ่งมักมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจึงต้องการเทคโนโลยีที่ช่วยลดความเสี่ยง และโคบอทกลายเป็นคำตอบที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง
โอกาสเติบโตของตลาดโคบอทในไทย
จากรายงานของสหพันธ์หุ่นยนต์นานาชาติ (International Federation of Robotics: IFR) ในปี 2566 พบว่า ประเทศไทยนำเข้าหุ่นยนต์เพื่อใช้งานในอุตสาหกรรมมากกว่า 3,600 ตัว ส่งผลให้ไทยติดอันดับที่ 15 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในด้านการใช้งานหุ่นยนต์ในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ อาหารและเครื่องดื่ม อิเล็กทรอนิกส์ และการแพทย์
นายสมชัยเผยว่า โคบอทเป็นทางเลือกที่มีศักยภาพสูง เพราะสามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างปลอดภัย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และตอบโจทย์การดำเนินงานในยุคที่ต้องการความยืดหยุ่น เอสไอเอสจึงตัดสินใจเป็นตัวแทนจำหน่ายหุ่นยนต์ดูบอทในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการขยายธุรกิจที่สำคัญ โดยตั้งเป้ายอดขายสำหรับดูบอทในปี 2568 ที่ 80 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 300 ล้านบาทในปี 2570
ดูบอท: ผู้นำเทคโนโลยีโคบอทระดับโลก
ด้านนายเจอรี่ หลิว ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ดูบอท กล่าวถึงความพร้อมของบริษัทว่า ดูบอทก่อตั้งในปี 2558 ณ เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน และเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีระดับแถวหน้า เช่น ระบบขับเคลื่อนและควบคุมแบบบูรณาการ เทคโนโลยีหยุดก่อนชน “SafeSkin” ที่สามารถหยุดหุ่นยนต์ก่อนชนวัตถุได้ล่วงหน้า 10-15 เซนติเมตร รวมถึงการใช้ AI ในการควบคุมและตรวจจับการทำงาน
ดูบอทยังครองตำแหน่งผู้นำด้านการส่งออกโคบอทอันดับหนึ่งในประเทศจีน โดยมีการส่งออกกว่า 72,000 ตัว ไปยัง 80 ประเทศทั่วโลก และได้รับการยอมรับจากบริษัทในกลุ่มฟอร์จูน 500
ตอบโจทย์อุตสาหกรรมและการศึกษาในไทย
นายสมชัยเปิดเผยว่า เอสไอเอสได้ลงทุนพัฒนาเวิร์กช็อปเพื่อฝึกอบรมพาร์ทเนอร์และผู้เชี่ยวชาญด้านระบบอัตโนมัติในไทย รวมถึงจัดกิจกรรมแข่งขันเขียนโปรแกรมตั้งแต่ระดับประถมศึกษาไปจนถึงระดับอุดมศึกษา เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ด้านโคบอทและการนำเทคโนโลยีไปใช้ในอนาคต
นอกจากนี้ นายหลิวยังเน้นย้ำว่า ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีการผลิตมากถึง 1.83 ล้านคันในปี 2566 และมีแนวโน้มเติบโตตามแผน “ประเทศไทย 4.0” ซึ่งมุ่งเปลี่ยนผ่านสู่การผลิตอัจฉริยะ
การจับมือระหว่างเอสไอเอสและดูบอทในครั้งนี้ไม่เพียงตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังสนับสนุนการพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีในภาคการศึกษา ซึ่งจะช่วยยกระดับศักยภาพของบุคลากรไทยในอนาคตอย่างยั่งยืน