บริษัท ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TCMC เปิดเผยผลประกอบการปี 2567 โดยมีรายได้รวม 6.1 พันล้านบาท ลดลงร้อยละ 23.44 จากปีก่อน เนื่องจากภาวะตลาดที่ผันผวน โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และยานยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาซัพพลายเชนและสภาพเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจวัสดุตกแต่งพื้นผิวยังคงมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และคาดว่าปี 2568 จะฟื้นตัวและสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง
นางสาวปิยพร พรรณเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TCMC เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 6,129 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 23.4 ขณะที่ EBITDA อยู่ที่ 204.24 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 65.74 และมีผลขาดทุนสุทธิ 908.70 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 81.62 ล้านบาท
กลุ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ (TCM Living) เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยรายได้ลดลงร้อยละ 39.11 จากปัญหาซัพพลายเชนในสหราชอาณาจักรและสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ดำเนินมาตรการควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวดและยุติธุรกิจ AMX Design ตามกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นธุรกิจหลัก ซึ่งแม้จะทำให้เกิดรายการขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินลงทุน 599 ล้านบาท แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดของบริษัท
ในทางกลับกัน กลุ่มธุรกิจวัสดุตกแต่งพื้นผิว (TCM Surface) ยังคงเติบโตได้ดี โดยมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.27 เป็น 2,673 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 40.98 สะท้อนถึงศักยภาพในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ บริษัทได้เดินหน้าลงทุนในด้านการตลาด การจัดแสดงสินค้า และการส่งเสริมผลิตภัณฑ์อคูสติก คาดว่าการลงทุนนี้จะช่วยกระตุ้นยอดขายในไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 และต่อเนื่องถึงปี 2568
ขณะที่กลุ่มธุรกิจพรมและผ้าหุ้มเบาะรถยนต์ (TCM Automotive) ได้รับผลกระทบจากภาวะชะลอตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยยอดการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยลดลงร้อยละ 25 ส่งผลให้รายได้ของกลุ่มธุรกิจนี้ลดลงร้อยละ 19.95 และอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจากปีก่อน อย่างไรก็ตาม ด้วยแนวทางการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ทำให้กลุ่มธุรกิจนี้ยังสามารถทำกำไรสุทธิได้ 38.39 ล้านบาท แม้ว่าจะลดลงจากปีก่อนร้อยละ 39.13
ด้านสถานะทางการเงินของบริษัท ณ สิ้นปี 2567 บริษัทมีอัตราส่วนสภาพคล่องที่ 1.12 เท่า และอัตราส่วนสภาพคล่องหมุนเร็วที่ 0.74 เท่า ซึ่งลดลงเล็กน้อยจากปี 2566 อย่างไรก็ตาม บริษัทมีรายได้อื่นจำนวน 13.72 ล้านบาทจากดอกเบี้ยรับ ค่าเช่า และการขายสินทรัพย์ โดยยังคงให้ความสำคัญกับการลดภาระหนี้สินและการบริหารจัดการดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง
สำหรับปี 2568 บริษัทตั้งเป้าฟื้นตัวท่ามกลางความท้าทายของตลาด โดยได้ปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดและขยายส่วนแบ่งทางการตลาดได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน