ทรูมันนี่ ผู้นำด้านบริการการเงินดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ ทรู คอร์ปอเรชั่น ผู้นำบริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยีของไทย จับมือกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ CYBER CRIME INVESTIGATION BUREAU (CCIB) เปิดตัวแคมเปญ “รีบโอน โจรยิ้ม” ภายใต้โครงการ “Thai Cyber Ranger: ไทยรู้ ทันหลอก” มุ่งสร้างความตระหนักรู้และเสริมเกราะป้องกันภัยไซเบอร์ให้กับคนไทยทั่วประเทศตลอดไตรมาส 3 ของปี 2568
แคมเปญ “รีบโอน โจรยิ้ม” เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์อาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเผยว่า ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 ถึงพฤษภาคม 2568 มีคดีออนไลน์สะสมกว่า 900,000 เรื่อง สร้างความเสียหายรวมกว่า 91,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยสูงถึง 77 ล้านบาทต่อวัน ซึ่ง 5 อันดับคดีออนไลน์ที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ การหลอกซื้อขายสินค้าหรือบริการ (44.85%), การหลอกให้โอนเงินเพื่อทำงาน (12.40%), การหลอกให้กู้เงิน (9.29%), การหลอกลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ (7.27%) และการข่มขู่ทางโทรศัพท์ (Call Center) (6.46%) ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการยกระดับความรู้ความเข้าใจด้านภัยไซเบอร์ให้กับประชาชน
พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) กล่าวรายงานในพิธีเปิดแคมเปญ โดยมี พลตำรวจเอก ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ผอ. ศปอส. ตร.) เป็นผู้กล่าวเปิดงาน พร้อมด้วยตัวแทนจากภาคเอกชน ภาควิชาการ และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังร่วมแสดงพลังสนับสนุนอย่างคับคั่ง
ความร่วมมือเพื่อสังคมดิจิทัลที่ยั่งยืน
นายสถาพร คิ้วสุวรรณสุข ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด ได้ร่วมเวทีเสวนาพิเศษภายใต้หัวข้อ ‘เตรียมอย่างไรให้พร้อม ก่อนภัยไซเบอร์คลื่นใหม่เข้าสู่สังคมไทย’ โดยกล่าวเน้นย้ำว่า “การร่วมมือของทรูมันนี่และทรู กับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในแคมเปญ ‘รีบโอน โจรยิ้ม’ ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่มุ่งลดความเสี่ยงจากอาชญากรรมไซเบอร์”
ทรูมันนี่มุ่งมั่นปกป้องผู้ใช้งานจากภัยไซเบอร์ผ่าน 4 มาตรการสำคัญ ได้แก่
- เทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงรุก: พัฒนาระบบป้องกันการดูดเงิน 3 ชั้น หรือ TrueMoney 3X Protection ซึ่งใช้เทคโนโลยี AI ตรวจจับและหยุดพฤติกรรมฉ้อโกงแบบเรียลไทม์ พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรม อุปกรณ์ และตำแหน่งที่ตั้งเพื่อหยุดธุรกรรมต้องสงสัยก่อนเกิดความเสียหาย
- ความร่วมมือเชิงลึกกับภาครัฐ: ร่วมแจ้งเตือนบัญชีต้องสงสัยและสนับสนุนข้อมูลวิเคราะห์เพื่อใช้ในกระบวนการสืบสวนแก่เจ้าหน้าที่และหน่วยงานภาครัฐ
- การสื่อสารเพื่อสร้างความรู้เท่าทันภัยไซเบอร์: ผ่านแพลตฟอร์มและสื่อในเครือข่ายของทรูมันนี่ รวมถึงการสนับสนุนแคมเปญ “รีบโอน โจรยิ้ม” ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี
- การตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ใช้งาน: พร้อมประสานหน่วยงานภาครัฐและให้คำปรึกษาในการดำเนินการตามกฎหมาย โดยมีบริการสายด่วนแจ้งเหตุต้องสงสัยและภัยทางการเงินผ่านเบอร์ 1240 กด 6 สำหรับรับแจ้งเหตุฉุกเฉินและอายัดบัญชีตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทรูมันนี่ในการสร้างระบบนิเวศทางการเงินที่มั่นคง ปลอดภัย และเชื่อถือได้ เพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถใช้ชีวิตและทำธุรกรรมในโลกดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ ทรูมันนี่และทรูจะยังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีและมีแผนเปิดตัวฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่ ๆ เพิ่มเติม เพื่อยกระดับความปลอดภัยและลดความเสี่ยงให้กับผู้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อสร้างระบบนิเวศการเงินดิจิทัลที่ยั่งยืนต่อไป