เคยสงสัยไหมว่าทำไมสายสื่อสารที่พันกันยุ่งเหยิงบนเสาไฟฟ้าถึงไม่หายไปสักที? เบื้องหลังภาพที่เราเห็นนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นภารกิจใหญ่ที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย รวมถึงทีมงานของทรูที่ทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างยั่งยืน
ทำความเข้าใจ “สายสื่อสาร” ที่อยู่บนเสาไฟฟ้า
สายสื่อสารที่เราเห็นบนเสาไฟฟ้าริมถนนไม่ได้มีแค่สายของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่รวมเอาทั้งสายโทรศัพท์เก่าที่ยังไม่ได้รื้อออก และสายไฟเบอร์ใหม่ที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีสายของหน่วยงานภาครัฐ เช่น กล้องวงจรปิดอีกด้วย
ชญานนท์ อุดมศิลปทรัพย์ จากทีม Right of Way ของทรู อธิบายว่าบนเสาต้นเดียวอาจมีสายสื่อสารจากผู้ประกอบการและหน่วยงานต่าง ๆ รวมกันกว่า 10 ราย ซึ่งแต่ละสายก็จะมีสีและอักษรย่อเฉพาะเพื่อระบุเจ้าของ แต่ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตเมืองที่มีผู้คนหนาแน่น สายเหล่านี้ก็พันกันจนกลายเป็นภาพที่ไม่น่ามอง
ด้วยเหตุนี้เอง พงศ์เทพ เทียมบุญเลิศ จากทีม Government & Public Utilities ของทรู จึงเล่าว่าในปี 2564 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้สำนักงาน กสทช. ขับเคลื่อนแผนการจัดระเบียบสายสื่อสาร โดยร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวง (MEA) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ที่มีนโยบายนำสายไฟฟ้าลงดินมาตั้งแต่ปี 2560 ทำให้เกิดเป็นแนวทางนำสายสื่อสารลงดินตามไปด้วย เพื่อปรับปรุงทัศนียภาพของเมืองให้สวยงาม
2 วิธีหลักในการจัดระเบียบสายสื่อสาร
การจัดระเบียบสายสื่อสารที่ทีมทรูและหน่วยงานต่าง ๆ กำลังดำเนินการอยู่มี 2 วิธีหลัก ได้แก่
- การจัดระเบียบสายบนเสาไฟฟ้า: เป็นการจัดการสายที่ใช้งานอยู่ให้เป็นระเบียบ เช่น รื้อสายที่ไม่ได้ใช้ และรวบรวมสายสื่อสารให้ขึ้นคอนตามมาตรฐานที่ MEA และ PEA กำหนด วิธีนี้บำรุงรักษาง่ายและใช้งบประมาณไม่สูง
- การนำสายสื่อสารลงดิน: เป็นการย้ายสายจากเสาไฟฟ้าลงไปวางในท่อใต้ดิน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนระบบโครงสร้างทั้งหมด โดยทำควบคู่ไปกับโครงการนำสายไฟฟ้าลงดิน วิธีนี้ใช้งบประมาณสูงกว่า แต่ก็ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นคงของระบบสื่อสาร ทำให้ทัศนียภาพของเมืองดูสะอาดตาและลดอุบัติเหตุ
เบื้องหลังการทำงานสุดท้าทายของทีมทรู
การนำสายสื่อสารลงดินไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ชญานนท์ เผยว่านี่คือการวางโครงสร้างใหม่ทั้งหมด โดยทีมทรูต้องทำงานคู่ขนานไปกับการให้บริการลูกค้าตามปกติ และเมื่อระบบใต้ดินเสร็จสมบูรณ์แล้วจึงจะทำการย้ายลูกค้าและรื้อถอนสายเดิมบนเสาออก
ขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อนนี้ประกอบด้วย:
- สำรวจและรวบรวมข้อมูล: ทีมงานต้องลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้าและสำรวจจุดเชื่อมต่อต่าง ๆ เพื่อใช้ออกแบบระบบใหม่
- ออกแบบและประสานงาน: วิศวกรออกแบบโครงข่ายใต้ดิน และประสานงานกับ NT ซึ่งเป็นผู้ดูแลท่อร้อยสายใต้ดิน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของพื้นที่
- วางสายและตัดถ่ายระบบ: เมื่อท่อพร้อม ทีมหน้างานจะเริ่มวางสายใหม่และย้ายลูกค้าเข้าสู่ระบบใต้ดิน ซึ่งส่วนใหญ่จะทำงานในช่วงกลางคืนเพื่อลดผลกระทบต่อลูกค้า
แม้จะมีแผนงานที่ชัดเจน แต่การทำงานจริงก็เต็มไปด้วยความท้าทาย เช่น บางพื้นที่ทำงานได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน หรือต้องเจอปัญหาหน้างานอย่างน้ำขัง ทำให้การดำเนินงานล่าช้าในบางจุด
พงศ์เทพ เสริมว่าแม้ผู้ให้บริการจะรื้อสายสื่อสารบนเสาออกหมดแล้ว แต่การรื้อถอนเสาไฟฟ้าจะเป็นไปตามแผนของการไฟฟ้าต่อไป
ภารกิจจัดระเบียบสายสื่อสารของทรูคือความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เพื่อความปลอดภัย ทัศนียภาพที่สวยงาม และคุณภาพการสื่อสารที่ยั่งยืนในอนาคต