141 ปี แห่งความยั่งยืน ไปรษณีย์ไทยก้าวสู่การเป็น Information Logistics

Share

บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้ประกาศแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 โดยมุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน ผ่านการพัฒนาระบบงานตามหลัก ESG+E (Environment, Social, Governance และ Economy) ภายใต้วิสัยทัศน์ “Delivering Sustainable Growth through Postal Network” ซึ่งมุ่งเน้นการส่งมอบการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านเครือข่ายไปรษณีย์ พร้อมเดินหน้าสู่ธุรกิจดิจิทัลด้วยการเป็น “Information Logistics”

มุ่งสู่ความยั่งยืนด้วยพลังงานสะอาดและการสนับสนุนชุมชน

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของไปรษณีย์ไทย เปิดเผยว่า ในโอกาสที่ไปรษณีย์ไทยครบรอบ 141 ปี องค์กรได้วางแผนสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน โดยตั้งเป้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิจนเป็นศูนย์ภายในปี 2593 หนึ่งในมาตรการสำคัญคือการนำยานยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในระบบขนส่ง โดยตั้งเป้าให้ยานยนต์ไฟฟ้ามีสัดส่วนถึง 85% ภายในปี 2573 และเต็ม 100% ภายในปี 2583 อีกทั้งยังศึกษาโอกาสในการนำพลังงานไฮโดรเจนมาใช้เพิ่มเติม

ในด้านสังคม ไปรษณีย์ไทยได้ริเริ่มโครงการ “ไปรษณีย์เชื่อมสุข” ที่มุ่งสร้างงานและอาชีพให้กับชุมชน โดยเฉพาะการสนับสนุนเกษตรกรและกลุ่ม SMEs ผ่านแพลตฟอร์ม ThailandPostMart ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนกว่า 600 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการขนส่งผลไม้และพืชผลทางการเกษตร เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง โดยในครึ่งปีแรกของปี 2567 ได้มีการส่งผลไม้ไทยยอดนิยมผ่านบริการ EMS กว่า 18 ล้านกิโลกรัม

เดินหน้าสู่การเป็น Information Logistics ด้วยบริการดิจิทัลที่ครอบคลุม

ดร.ดนันท์ ยังเน้นย้ำถึงการเปลี่ยนผ่านสู่การเป็น “Information Logistics” โดยไปรษณีย์ไทยได้พัฒนาบริการ Prompt Post ซึ่งเป็นการบริหารจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร ประกอบด้วย 4 บริการหลัก ได้แก่ Trust Service, Digital Postbox, One-stop service และ Prompt pass โดยบริการเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในยุคดิจิทัลอย่างเต็มที่

อีกหนึ่งบริการที่น่าสนใจคือ D/ID (Digital Post ID) ซึ่งเป็นรหัสส่วนบุคคลที่ช่วยปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างการจัดส่งสิ่งของ และสามารถอัปเดตที่อยู่ใหม่ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ โดยอัตโนมัติ ทำให้การจัดส่งเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

ขยายฐานธุรกิจเดิม ควบคู่กับการเติบโตของธุรกิจดิจิทัล

นอกจากการพัฒนาธุรกิจใหม่แล้ว ไปรษณีย์ไทยยังคงมุ่งเน้นการขยายฐานธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นรายได้หลักขององค์กร โดยให้ความสำคัญกับการรักษาลูกค้าเดิมและหาลูกค้าใหม่ รวมถึงการเป็นพันธมิตรในการขนส่งให้กับแพลตฟอร์มชั้นนำ เช่น TikTok, Shopee และ Lazada ส่งผลให้บริการส่งด่วน EMS ในประเทศเติบโตขึ้นถึง 12.92% ในปี 2567 จากความเชื่อมั่นในบริการที่รวดเร็ว ปลอดภัย และมีเครือข่ายจุดให้บริการทั่วประเทศกว่า 50,000 แห่ง

ไปรษณีย์ไทยไม่เพียงแต่เป็นผู้นำในการขนส่งและโลจิสติกส์ แต่ยังเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจ สังคม และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศอีกด้วย