นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อป้องกันข่าวปลอม ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสำคัญที่มุ่งแก้ปัญหาข่าวปลอมที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและสร้างความสับสนให้กับประชาชน
ที่ประชุมได้เห็นชอบร่วมกันใน 5 มาตรการสำคัญเพื่อปราบปรามข่าวปลอมและบัญชีผู้ใช้งานที่น่าสงสัย (Account IO) โดยจะร่วมมือกับแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ในการดำเนินการอย่างจริงจัง
5 มาตรการปราบปรามข่าวปลอม
- ให้ความสำคัญสูงสุดกับข่าวความมั่นคงชายแดน: จะมีการจัดลำดับความสำคัญของข่าวที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงชายแดนให้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุดในการจัดการกับข่าวปลอม
- ใช้ AI ตรวจจับและปิดกั้น (Take Down): นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยตรวจจับและรวบรวมข่าวปลอมที่ได้รับการยืนยันแล้ว เพื่อดำเนินการปิดกั้นในทุกช่องทางของแพลตฟอร์ม
- เพิ่มเจ้าหน้าที่และพัฒนา AI: เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่เพื่อรองรับการทำงาน และแพลตฟอร์มต่างๆ จะพัฒนา AI เพื่อตรวจจับบัญชีปลอมของบุคคลสาธารณะ (Fake Account)
- จัดการกับปฏิบัติการข่าวสาร (IO): หากตรวจพบการปฏิบัติการข่าวสารในเชิงจิตวิทยา จะส่งเรื่องให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) เพื่อแจ้งแพลตฟอร์มให้ระงับการเผยแพร่ทันที
- ยกระดับการยืนยันตัวตน: ยกระดับการยืนยันตัวตนของผู้ที่ต้องการลงโฆษณา โดยต้องเป็นบริษัทที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้ว
เร่งตรวจสอบ-เผยแพร่ข้อเท็จจริงภายใน 3 ชั่วโมง
ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้ กระทรวงดีอีเป็นศูนย์กลาง ในการรับเรื่องข่าวปลอมจากทั้งหน่วยงานภาครัฐและประชาชน จากนั้นจะส่งเรื่องต่อไปยังกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ภายในระยะเวลา 3 ชั่วโมง
หลังจากตรวจสอบแล้ว กรมประชาสัมพันธ์จะเป็นหน่วยงานหลักในการเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องและประสานงานกับสื่อมวลชน และกระทรวงดีอีจะแจ้งให้แพลตฟอร์มต่างๆ ดำเนินการปิดกั้นข่าวปลอมต่อไป
สำหรับประชาชนที่พบเห็นข่าวที่น่าสงสัยว่าเป็นข่าวปลอม สามารถแจ้งเบาะแสได้โดยตรงที่เว็บไซต์ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย (Anti Fake News Center: AFNC) ที่ www.antifakenewscenter.com เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาข่าวปลอมอย่างมีประสิทธิภาพ