รองนายกฯ ประเสริฐ เผยฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคเหนือคืบหน้ากว่า 80% พร้อมขอประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม

Share

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่าการฟื้นฟูพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยในภาคเหนือมีความก้าวหน้ามากกว่า 80% โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และลำปาง ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและดินโคลนถล่ม

ทั้งนี้ นายประเสริฐกล่าวว่า รัฐบาลได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ลงพื้นที่เพื่อประเมินปัญหาและวางแนวทางการฟื้นฟู โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองเชียงราย ซึ่งหลายพื้นที่เริ่มกลับสู่สภาวะปกติอย่างรวดเร็ว คาดว่าภายในเดือนตุลาคมนี้ อำเภอเมืองเชียงรายและอำเภอแม่สายจะสามารถกลับคืนสู่สภาพปกติได้

สำหรับมาตรการเร่งด่วนที่รัฐบาลดำเนินการคือการฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภค อาทิ ไฟฟ้า น้ำประปา และสัญญาณโทรคมนาคม เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ ยังมีการฟื้นฟูบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของประชาชนกลุ่มเปราะบาง และคืนสภาพเส้นทางสัญจรให้กลับมาใช้งานได้ โดยมีความคืบหน้าในหลายพื้นที่มากกว่า 80%

ในด้านมาตรการเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย รัฐบาลได้อนุมัติกรอบวงเงิน 3,045 ล้านบาท ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยการช่วยเหลือจะครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอแม่สาย และอำเภอขุนตาล ซึ่งมีครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจำนวน 3,623 ครัวเรือน

รองนายกฯ ประเสริฐยังได้กล่าวถึงความสำคัญของการเฝ้าระวังสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยศปช.ได้มีการระดมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับจังหวัด ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนและให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที สำหรับกระทรวงดีอีได้มอบหมายให้กรมอุตุนิยมวิทยาเฝ้าติดตามสภาพอากาศและแจ้งเตือนประชาชนทันที หากมีแนวโน้มการเกิดสถานการณ์ที่รุนแรง

“ผมขอแสดงความเสียใจกับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตนี้ไปได้ โดยรัฐบาลจะเร่งรัดการฟื้นฟูและเยียวยาประชาชนอย่างเต็มกำลัง” รองนายกฯ ประเสริฐ กล่าว

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการเผยแพร่ข่าวปลอมเกี่ยวกับสภาพอากาศและอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด โดยรองนายกฯ ขอให้ประชาชนระมัดระวังไม่ให้หลงเชื่อข่าวปลอม โดยแนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานรัฐก่อนที่จะทำการแชร์ข่าวสาร

เพื่อสนับสนุนการสื่อสารระหว่างประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงดีอีได้เปิดตัวแพลตฟอร์ม Line OA ชื่อว่า “HelpT (น้ำท่วม ช่วยด้วย)” ซึ่งเป็นช่องทางให้ประชาชนสามารถแจ้งเหตุฉุกเฉินและขอความช่วยเหลือในพื้นที่ประสบอุทกภัยได้อย่างรวดเร็ว โดยประชาชนสามารถแอด LINE OA: @HelpT เพื่อส่งรูปและระบุพิกัด พร้อมติดตามสถานะและผลการดำเนินการได้อย่างสะดวก

“เราขอให้ประชาชนใช้ช่องทางนี้ในการขอความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการขออพยพ อาหาร หรืออุปกรณ์ที่จำเป็น โดยคำขอจากประชาชนจะถูกส่งไปยังหน่วยงานท้องถิ่นอย่างรวดเร็ว” รองนายกฯ ประเสริฐกล่าว

การจัดตั้งแพลตฟอร์ม “HelpT” ยังรวมถึงการรวบรวมเบอร์โทรศัพท์ของหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือและข้อมูลพยากรณ์ปริมาณฝนที่จะเกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่จากแพลตฟอร์ม FAHFON (ฟ้าฝน) เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องและทันเวลา

รองนายกฯ ประเสริฐยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมในการรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว โดยรัฐบาลจะไม่หยุดนิ่งในการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยให้กลับคืนสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด