กสทช. ถก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปกป้องเด็กจากเนื้อหาข่าวรุนแรง หนุนสื่อคุณภาพยั่งยืน

Share

ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พร้อมคณะ ได้เข้าพบคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร ณ อาคารรัฐสภา เพื่อร่วมกันหารือถึงแนวทางในการปกป้องคุ้มครองเด็ก เยาวชน และกลุ่มเปราะบางจากผลกระทบของรายการข่าวและรายการโทรทัศน์ที่มีเนื้อหารุนแรง ซึ่งอาจละเมิดสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ที่ตกเป็นข่าว รวมถึงส่งผลกระทบต่อค่านิยมและมุมมองของสังคมในวงกว้าง

การประชุมครั้งนี้เน้นการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์รายการโทรทัศน์ที่เรียกว่า “ขยี้ข่าว” ซึ่งเป็นรายการข่าวที่นำเสนอเนื้อหาในลักษณะเร้าอารมณ์ เน้นความดราม่า หรือการรายงานที่อาจกระทบจิตใจผู้ชม โดยเฉพาะกรณีที่เนื้อหาข่าวเกี่ยวข้องกับความรุนแรงในครอบครัว การทำร้ายเด็กและสตรี หรือเหตุการณ์ความรุนแรงต่าง ๆ ที่อาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของผู้ที่ปรากฏในข่าวและต่อการรับรู้ของสังคม นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่าเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมเหล่านี้จะทำให้เกิดการบิดเบือนข้อเท็จจริงและละเมิดสิทธิมนุษยชน

ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง กล่าวว่า “รายการข่าวที่เน้นการดึงดูดอารมณ์เหล่านี้เป็นเหมือนเหรียญสองด้าน ด้านหนึ่งคือการเปิดเผยปัญหาที่ต้องการการแก้ไข แต่ในขณะเดียวกัน วิธีการนำเสนออาจสร้างความเสียหายแก่ผู้ที่ตกเป็นข่าว ทั้งในแง่สิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” ท่านยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “การเสพข่าวที่มีเนื้อหาความรุนแรงอาจบ่มเพาะค่านิยมทางสังคมที่ไม่ดี ทำให้เกิดการเลียนแบบพฤติกรรม และส่งผลต่อสังคมในระยะยาว”

ในปัจจุบัน อุตสาหกรรมโทรทัศน์กำลังเผชิญความท้าทายจากกระแสการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการแข่งขันที่สูง หลายสถานีโทรทัศน์จำเป็นต้องใช้เนื้อหาที่เร้าอารมณ์หรือดราม่าในการดึงดูดผู้ชมเพื่อเพิ่มเรตติ้งและยอดรับชม แต่ในเวลาเดียวกัน กสทช. จำเป็นต้องกำกับดูแลเพื่อไม่ให้รายการข่าวเหล่านี้กระทบต่อจริยธรรมของสังคม การปกป้องสิทธิของผู้ที่ตกเป็นข่าวและรักษามาตรฐานการนำเสนอที่ดีเป็นสิ่งที่ควรได้รับความสำคัญ

การประชุมดังกล่าวได้รับการตอบรับจากคณะกรรมาธิการฯ อย่างดี นายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า “ปัจจุบัน ผู้คนส่วนใหญ่เสพข่าวที่ดราม่าและเร้าอารมณ์มากขึ้น สื่อที่นำเสนอเนื้อหาที่มีคุณภาพอาจไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ซึ่งเป็นปัญหาที่เราต้องแก้ไขร่วมกัน”

ในขณะเดียวกัน นางสาวกิตติ์ธัญญา วาจาดี รองประธานคณะกรรมาธิการฯ คนที่หนึ่ง ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการนำเสนอข่าวอย่างเป็นกลางและการไม่ใส่ความคิดเห็นส่วนตัวของผู้ประกาศลงในเนื้อหา เพราะอาจทำให้ผู้ชมคล้อยตามและเกิดความเข้าใจผิดได้ นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ รองประธานคณะกรรมาธิการฯ คนที่สอง ได้เสนอให้มีการสร้างเส้นแบ่งที่ชัดเจนระหว่างรายการข่าวแบบดั้งเดิมที่มุ่งเน้นข้อเท็จจริงกับรายการ “ขยี้ข่าว” ที่เน้นการนำเสนอด้วยอารมณ์

นายธัญวัจน์กล่าวเพิ่มเติมว่า “รายการขยี้ข่าวที่เน้นดราม่าและเร้าอารมณ์นั้น ควรต้องมีการสร้างนิยามใหม่ เพราะเนื้อหาที่นำเสนออาจบิดเบือนข้อเท็จจริงและสร้างความเข้าใจผิดในสังคม รวมถึงการละเมิดสิทธิของผู้ที่ถูกสัมภาษณ์หรือผู้ที่ตกเป็นข่าว ซึ่งอาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวและสิทธิในการเผยแพร่เนื้อหา” เขายังกล่าวอีกว่า การผลิตรายการในลักษณะนี้อาจเข้าข่ายการละเมิดลิขสิทธิ์ และจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับสิทธิของผู้ที่ปรากฏในเนื้อหานั้นด้วย

ท้ายที่สุด คณะกรรมาธิการฯ เห็นชอบที่จะร่วมมือกับ กสทช. ในการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง โดยจะมีการติดตามและประสานงานร่วมกันในอนาคตเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมในการปกป้องเด็ก เยาวชน และกลุ่มเปราะบางจากผลกระทบของเนื้อหารายการโทรทัศน์ที่ไม่เหมาะสม