รัฐบาลมาเลเซียได้สร้างปรากฏการณ์สำคัญด้วยการเปิดตัวแพลตฟอร์ม “Startup ASEAN” อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นการเปิดใช้งานอย่างเต็มรูปแบบเพื่อเป็น “ดิจิทัลเกทเวย์” ที่จะเชื่อมโยงและส่งเสริมสตาร์ทอัพทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน โครงการยิ่งใหญ่นี้ริเริ่มโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (MOSTI) และขับเคลื่อนโดยบริษัท Cradle Fund Sdn Bhd (Cradle) ตอกย้ำความมุ่งมั่นของมาเลเซียในบทบาท ประธานอาเซียนประจำปี 2568 ที่จะจุดประกายนวัตกรรมและพลวัตทางเศรษฐกิจทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Startup ASEAN ในครั้งนี้ แตกต่างจากการเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการก่อนหน้า โดยมาพร้อมขีดความสามารถที่สมบูรณ์แบบเพื่อสนับสนุนระบบนิเวศนวัตกรรมของอาเซียนอย่างรอบด้าน แพลตฟอร์มนี้ได้รับการออกแบบให้เป็น ศูนย์กลางแบบครบวงจร สำหรับสตาร์ทอัพ ให้เข้าถึงตลาดระดับภูมิภาค แหล่งเงินทุนและเครือข่ายนักลงทุน การพัฒนาบุคลากร และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับระบบนิเวศสตาร์ทอัพ YB Tuan Chang Lih Kan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของมาเลเซีย (MOSTI) กล่าวเน้นย้ำถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลว่า “มาเลเซียรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 2568 และมีบทบาทนำในการสร้างระบบนิเวศสตาร์ทอัพระดับภูมิภาคที่ได้รับการบูรณาการและส่งเสริมอย่างแท้จริง
แพลตฟอร์ม Startup ASEAN ไม่ได้เป็นเพียงดิจิทัลเกทเวย์ แต่ยังเป็นกลไกเชิงกลยุทธ์ที่เกิดจากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมด โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการเข้าถึงตลาด แหล่งทุน บุคลากร และข้อมูลที่ยังขาดการเชื่อมโยงอย่างเป็นระบบในภูมิภาคนี้” YB Chang ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “การเปิดตัวแพลตฟอร์มครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จสำคัญครั้งแรกภายใต้กรอบความร่วมมือ ‘ASEAN Startup Technology Ignite 2025’ และผมขอชื่นชม Cradle ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการนี้ร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียนทุกประเทศ เราไม่ได้เพียงแค่เปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ในการสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาค แต่ยังสร้างโอกาสให้สตาร์ทอัพของมาเลเซียสามารถขยายธุรกิจ เติบโต และประสบความสำเร็จทั้งในอาเซียนและระดับโลกผ่านแพลตฟอร์มแห่งนี้”
ฯพณฯ ดร. Kao Kim Hourn เลขาธิการอาเซียน ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของแพลตฟอร์มนี้ว่า “วันนี้ เราได้เป็นสักขีพยานในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Startup ASEAN ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มที่จะพลิกโฉมวงการ และถูกออกแบบให้เป็นศูนย์กลางสำหรับสตาร์ทอัพทั่วทั้งภูมิภาคของเรา แพลตฟอร์มนี้จะเชื่อมโยงผู้ประกอบการ นักลงทุน สถาบันภาครัฐ และผู้สร้างระบบนิเวศสตาร์ทอัพจากทุกประเทศสมาชิกเข้าไว้ด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ โดยสะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของอาเซียนในการเสริมสร้างการบูรณาการในระดับภูมิภาค พร้อมทั้งปลดล็อกโอกาสใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน ผ่านพลังของเทคโนโลยีและนวัตกรรม” Norman Matthieu Vanhaecke ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท Cradle กล่าวแสดงความภาคภูมิใจว่า “Cradle รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มีบทบาทในการเป็นผู้นำเพื่อขับเคลื่อนโครงการนี้ และมีส่วนร่วมในการผลักดันการเติบโตของอาเซียนผ่านพลังแห่งนวัตกรรม แพลตฟอร์มนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของเทคโนโลยีเท่านั้น หากแต่เป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ ภายในระบบนิเวศสตาร์ทอัพ เสริมสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ และปลดล็อกศักยภาพของผู้ประกอบการสตาร์ทอัพในอาเซียนให้เติบโตอย่างแท้จริง” คุณ Norman ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกจากฐานข้อมูลระดับภูมิภาคแล้ว แพลตฟอร์มนี้ยังจะเป็นพื้นที่จัดโครงการระดับภูมิภาคที่มุ่งเสริมสร้างความร่วมมือข้ามพรมแดนระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมด รวมถึงประเทศคู่เจรจา เช่น เกาหลีใต้และจีนอีกด้วย”
แนวคิดแพลตฟอร์ม Startup ASEAN ได้รับความเห็นชอบในปี 2566 โดยมอบหมายให้ Cradle เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการดำเนินงานภายใต้นโยบายของ MOSTI โครงการนี้มุ่งเน้นการพัฒนานโยบายที่เอื้อต่อการเติบโตของสตาร์ทอัพ การยกระดับความพร้อมของระบบนิเวศในภูมิภาค และการผลักดันโครงการและความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระดับภูมิภาคที่สร้างผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม ในฐานะประธานอาเซียนประจำปี 2568 บทบาทผู้นำของมาเลเซียภายใต้กรอบ ASEAN Technology Startup Ignite Programme สะท้อนให้เห็นถึงการขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์เพื่อเสริมสร้างบทบาทของประเทศให้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมระดับภูมิภาค การดำเนินงานภายใต้โครงการนี้แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 (ปี 2567): การพัฒนาและเปิดตัวแพลตฟอร์ม Startup ASEAN ในช่วงก่อนเปิดใช้งานจริง, ระยะที่ 2 (ปี 2568): การเปิดตัวอย่างเป็นทางการของแพลตฟอร์ม Startup ASEAN พร้อมด้วยโครงการระดับภูมิภาค การพัฒนาศักยภาพ และการจัดประชุมสุดยอด Startup ASEAN Summit, และ ระยะที่ 3 (ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป): การจัดตั้ง ศูนย์ความเป็นเลิศอาเซียน (ASEAN Centre of Excellence) เพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพในระยะเริ่มต้น
งานเปิดตัวแบบไฮบริดในครั้งนี้ได้จัดแสดงวิดีโอทัวร์ Startup ASEAN อย่างเต็มอิ่ม พร้อมนำเสนอเรื่องราวความสำเร็จอันโดดเด่นของสตาร์ทอัพ รวมถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมจากทุกประเทศสมาชิกอาเซียนอย่างครบถ้วน พร้อมกันนี้ Cradle ยังได้จัดกิจกรรม ASEAN CrossConnect ซึ่งเป็นเวทีเปิดโอกาสในการเข้าถึงตลาดระดับภูมิภาค โดยจับคู่เมนเทอร์ระดับโลก 10 ท่าน จากประเทศสมาชิกอาเซียน กับสตาร์ทอัพชั้นนำจากทั่วทั้งภูมิภาค Cradle จะเดินหน้าทำงานอย่างใกล้ชิดกับประเทศสมาชิกอาเซียนทุกประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณค่าของแพลตฟอร์มนี้ ให้สามารถสร้างผลลัพธ์เชิงบวกได้อย่างแท้จริง ด้วยการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงตลาด โอกาสการลงทุน และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่ดียิ่งขึ้นต่อไป การเปิดตัว Startup ASEAN ไม่เพียงแต่เป็นการวางรากฐานสำหรับระบบนิเวศสตาร์ทอัพที่แข็งแกร่งในภูมิภาค แต่ยังเป็นการประกาศเจตนารมณ์ของอาเซียนในการเป็นผู้เล่นสำคัญบนเวทีนวัตกรรมระดับโลก อนาคตของสตาร์ทอัพในอาเซียนกำลังจะก้าวไปอีกขั้น