กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เดินหน้าผลักดัน “เวลเนส คอมมูนิตี้” แหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ผสานภูมิปัญญาไทยและสมุนไพร เพื่อสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง พร้อมเปิดโอกาสทองให้ผู้ประกอบการ 200 รายแรกที่ผ่านการรับรอง “ศูนย์เวลเนสอัตลักษณ์ไทย” (TWD) ได้รับการโปรโมตจาก ททท. และกระทรวงวัฒนธรรม เตรียมลัดฟ้าสู่เวทีระดับโลกในงาน “เอ็กซ์โป โอซาก้า”
นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดเผยถึงความสำคัญของโซนเวลเนสในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 22 ว่าเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพของประเทศ กรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้ร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และภาคีเครือข่าย พัฒนาเกณฑ์ประเมินแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพภูมิปัญญาไทยและสมุนไพรอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันมีแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับมาตรฐานชุมชนโฮมสเตย์และผ่านการประเมินแล้ว 256 แห่งทั่วประเทศ สร้างรายได้กว่า 256 ล้านบาทให้แก่ชุมชน โดยเฉพาะใน 16 จังหวัดเมืองสมุนไพร กรมฯ มุ่งเน้นการพัฒนาสมุนไพรตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า ทั้งต้นน้ำ (เกษตรวัตถุดิบ) กลางน้ำ (อุตสาหกรรม) และปลายน้ำ (ท่องเที่ยว) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น สร้างรายได้ และส่งเสริมการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น
นายแพทย์สมฤกษ์ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงการต่อยอดสู่ Wellness Community โดยจะพิจารณาสถานประกอบการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่มีศักยภาพสูง เพื่อส่งเสริมให้เป็น Wellness Community ที่โดดเด่นด้วยองค์ประกอบสำคัญ อาทิ ชุมชนที่เข้มแข็ง มีศิลปวัฒนธรรมเด่นชัด การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาต่อยอด แหล่งเรียนรู้ในชุมชน แหล่งปลูกสมุนไพรปลอดสาร หรือมีตลาดสินค้าปลอดสาร ลานออกกำลังกาย การจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี รวมถึงการรวบรวมและเชิดชูตำราหมอพื้นบ้านและเครือข่ายต่างๆ ซึ่งจะส่งเสริมให้เกิดความสามัคคีและประโยชน์ร่วมกันในชุมชน โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจะเป็นผู้ร่วมประเมินคุณสมบัติ
ทางด้าน นายแพทย์กุลธนิต วนรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์ทางเลือก กล่าวเสริมว่า ภายในโซนเวลเนสของงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ได้นำผู้ประกอบการที่ได้รับประกาศนียบัตร ศูนย์เวลเนสอัตลักษณ์ไทย (Thainess Wellness Destination – TWD) มาร่วมออกบูธ เพื่อจำลองบรรยากาศเสมือนจริง เช่น ฟ้าล้านนา สปาเชียงใหม่, เพ ลา เพลิน บุรีรัมย์ และชีวาดี คลินิก เชียงคาน จังหวัดเลย นอกจากนี้ ยังเปิดรับให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการที่สนใจขึ้นทะเบียน TWD ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการ TWD ต้องเป็นประเภทที่พักนักท่องเที่ยว ภัตตาคาร ร้านอาหาร นวดเพื่อสุขภาพ สปาเพื่อสุขภาพ และสถานพยาบาล โดยต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตาม 9 องค์ประกอบความเป็นไทย ได้แก่ ความภูมิใจในความเป็นชาติไทย ภาษาไทยที่ถูกต้อง วิถีชีวิตไทย ประเพณีวัฒนธรรมไทย ศิลปะไทย ภูมิปัญญาไทย สินค้าไทย กิริยางดงามอย่างไทย และสถาปัตยกรรมไทย รวมถึง 6 อายตนะ (รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อารมณ์) ผู้ที่มั่นใจว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนสามารถติดต่อที่บูธ หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของสถาบันการแพทย์ทางเลือก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
“นี่คือโอกาสทองสำหรับผู้ประกอบการที่พร้อม” นายแพทย์กุลธนิตเน้นย้ำ “กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกจะส่งรายชื่อผู้ประกอบการ 200 รายแรกที่ผ่านการรับรอง ให้กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกระทรวงวัฒนธรรม หรือกระทรวงอื่นๆ ที่มีเครือข่าย เพื่อเชิญชวนไปร่วมออกบูธและโปรโมตในงานนิทรรศการหรืองานเอ็กซ์โปต่างๆ”
ล่าสุด ได้มีการเชิญบูธผู้ประกอบการจากจังหวัดกระบี่และจังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วมงาน เอ็กซ์โป โอซาก้า ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสิทธิพิเศษสำหรับสถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานและได้รับการรับรองโดยตรงจากกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการสมัครและการตรวจประเมิน เพื่อต่อยอดเป็นสถานประกอบการเวลเนสอัตลักษณ์ไทย (TWD) ที่จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทยสู่ระดับโลกอย่างแท้จริง