เบื้องหลังความสำเร็จ เอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ เปิดแนวคิด “ความเฉพาะทางที่ครบวงจร” กุญแจสู่ผลลัพธ์การรักษาที่เหนือกว่า

เบื้องหลังความสำเร็จ! เอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ เปิดแนวคิด "ความเฉพาะทางที่ครบวงจร" กุญแจสู่ผลลัพธ์การรักษาที่เหนือกว่า
Share

ท่ามกลางยุคที่ผู้คนต้องเผชิญกับปัญหากระดูกสันหลังและข้อมากขึ้นทุกวัน ทั้งจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันหรือภาวะเสื่อมตามอายุ การตัดสินใจเลือกสถานพยาบาลจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง หลายคนอาจมองหาโรงพยาบาลที่มีแต่ “หมอเก่ง” แต่สำหรับ โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านนี้โดยเฉพาะ กลับเผยถึงเบื้องหลังความสำเร็จที่แตกต่าง นั่นคือแนวคิด “ความเฉพาะทางที่ครบวงจร” ที่ผสาน 3 องค์ประกอบสำคัญเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

เอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ เปิดแนวคิด "ความเฉพาะทางที่ครบวงจร" กุญแจสู่ผลลัพธ์การรักษาที่เหนือกว่า

นายแพทย์ดิตถพงษ์ บุญอำพล ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลฯ อธิบายว่า การรักษาที่ได้ผลดีนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับแพทย์เพียงคนเดียว แต่ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของทีมและเทคโนโลยีที่พร้อม โดยเปรียบเทียบว่า “หมอเก่งก็เหมือนสถาปนิกและวิศวกรที่ออกแบบบ้านให้แข็งแรง แต่ถ้าไม่มีช่างฝีมือดีและเครื่องมือพร้อม บ้านก็สร้างไม่สำเร็จ”

3 องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้การรักษาที่ เอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ แตกต่าง

  • แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง: โรงพยาบาลคัดเลือกแพทย์ผู้มีประสบการณ์สูงและได้รับการฝึกอบรมด้านกระดูกสันหลังและข้อโดยตรง ทำให้สามารถวินิจฉัยและวางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำ เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดหรือไม่ผ่าตัด แพทย์ยังทำงานร่วมกับทีมสหสาขาวิชาชีพอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพตั้งแต่ก่อน ระหว่าง และหลังการรักษา เป้าหมายไม่ใช่แค่หายจากอาการปวด แต่เพื่อคืนคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วยกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ
  • ทีมสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพ: อีกหนึ่งปัจจัยที่สร้างความประทับใจให้ผู้ป่วยคือความเชี่ยวชาญของทีมพยาบาลและผู้ช่วยผ่าตัดที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี จนสามารถทำงานประสานกับแพทย์ในห้องผ่าตัดได้อย่างราบรื่น เพียงแค่สบตา ทีมก็เข้าใจทันทีว่าแพทย์ต้องการอะไร นพ.ดิตถพงษ์ เปรียบเทียบการทำงานของทีมว่า “เหมือนกับคนขับรถที่ชำนาญแล้ว ทุกอย่างจะเกิดขึ้นอย่างอัตโนมัติ” การทำงานที่คล่องตัวนี้ช่วยลดเวลาและเพิ่มความปลอดภัยในการผ่าตัดให้แก่ผู้ป่วย
  • เทคโนโลยีและเครื่องมือเฉพาะทาง: โรงพยาบาลให้ความสำคัญกับการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อการรักษาโรคกระดูกสันหลังโดยเฉพาะ เช่น เตียงผ่าตัดพิเศษที่สามารถรองรับการ X-ray ได้แบบเรียลไทม์ ทำให้แพทย์มองเห็นโครงสร้างกระดูกระหว่างผ่าตัดได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนและช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบตรวจวินิจฉัยภาพขั้นสูงอย่าง MRI และ CT Scan เฉพาะทาง เพื่อความถูกต้องในการวิเคราะห์อาการตั้งแต่ต้น

นายแพทย์ดิตถพงษ์สรุปปิดท้ายว่า “ความเฉพาะทางของเราเกิดจากการรวบรวมองค์ประกอบที่ดีที่สุด เพื่อให้ผู้ป่วยไม่เพียงหายจากอาการเจ็บป่วย แต่ยังกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจและมีความสุขอีกครั้ง” นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมโรงพยาบาลแห่งนี้จึงได้รับความไว้วางใจจากผู้ป่วย เพราะที่นี่ไม่ได้รักษาแค่อาการ แต่ยังดูแลไปถึงคุณภาพชีวิตหลังการรักษาอย่างแท้จริง