มหาวิทยาลัยสังคมศาสตร์แห่งสิงคโปร์ (SUSS) ร่วมกับ Orange Cap Innovative (OCI) เปิดตัว SUSS x OCI Success Academy ในกรุงเทพฯ มุ่งสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ใหม่ผ่านการผสมผสานการฝึกอบรมในโลกดิจิทัลและการเรียนรู้ในสถานการณ์จริง เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต (lifelong learning) สำหรับนักศึกษา คนวัยทำงาน และผู้บริหารที่ต้องการรีสกิลทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
งานเปิดตัวครั้งนี้มีแขกจากทั้งสิงคโปร์และไทยเข้าร่วมกว่า 70 คน โดยมี นางแคทเธอรีน หว่อง เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย และ ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ร่วมเป็นประธานเปิดงาน
Success Academy ทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญสำหรับพันธมิตรทางวิชาการและอุตสาหกรรมจากทั้งสองประเทศ ส่งเสริมความร่วมมือและเตรียมผู้นำรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมในอนาคต
นายอมรเชษฐ์ จินดาอภิรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OCI เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งนำองค์ความรู้และเครือข่ายจากสิงคโปร์ มาพัฒนาและผสานกับความเชี่ยวชาญของ OCI ในการตอบโจทย์ภาคธุรกิจและองค์กรในไทย ผ่านโครงการของ Success Academy Bangkok โดยเน้นการพัฒนานวัตกรรมในสาขาต่าง ๆ เช่น การท่องเที่ยว เทคโนโลยีสุขภาพ และการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืน
ทาง SUSS ยังมีแผนส่งเสริมการเรียนรู้แบบสหวิทยาการและการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างนักศึกษาจากสิงคโปร์และไทย ผ่านโปรแกรมต่าง ๆ เช่น หลักสูตรการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืน และ Impact Start-Up Challenge ซึ่งเป็นเวทีที่นักศึกษาจากทั้งสองประเทศได้ร่วมกันสัมผัสกับระบบนิเวศของสตาร์ทอัพไทยและพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ร่วมกัน นอกจากนี้ SUSS ยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาจากทั้งสองประเทศได้ฝึกงานกับองค์กรชั้นนำในภูมิภาค
ศาสตราจารย์ Tan Tai Yong ประธาน SUSS กล่าวว่า การเปิดตัว Success Academy ในประเทศไทยถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายการศึกษาและสร้างประสบการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริงให้แก่นักเรียน SUSS โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดที่ SUSS ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
นายอมรเชษฐ์ กล่าวเสริมว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยยกระดับการศึกษาในไทยด้วยนวัตกรรมระดับโลก และช่วยสร้างเครือข่ายระหว่างประเทศเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับคนรุ่นใหม่ในอนาคต
การเปิดตัว Success Academy Bangkok ถือเป็นการขยายขอบเขตการศึกษาในภูมิภาคเอเชียของ SUSS โดยปีที่ผ่านมา SUSS ได้ก่อตั้งสถาบันในหลายเมืองเช่น โฮจิมินห์ซิตี้ ปักกิ่ง และเซินเจิ้น และมีแผนเปิดสถาบันเพิ่มเติมในกัวลาลัมเปอร์ จาการ์ตา มะนิลา และมุมไบในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
