นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการ “Digital Korat: The Future Starts now – โคราช มหานครดิจิทัลแห่งอนาคต” ณ จังหวัดนครราชสีมา โดยมีผู้บริหารกระทรวงดีอี หน่วยงานในสังกัด และผู้เกี่ยวข้องร่วมงาน
ขับเคลื่อนโครงการสู่การเปลี่ยนผ่านยุคดิจิทัล
โครงการนี้เริ่มต้นจากการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ในเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยกระทรวงดีอีจัดทำขึ้นเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลแก่ประชาชนและหน่วยงานราชการในท้องถิ่น มีผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 คน และมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกระทรวงดีอีกับจังหวัดนครราชสีมาและพันธมิตรต่าง ๆ
ข้อมูลล่าสุดเผยว่า ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มีหน่วยงานที่ใช้งานระบบดิจิทัลกว่า 343 แห่ง มีบัญชีผู้ใช้งานระบบ 15,219 บัญชี และใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (CA) จำนวน 1,775 ใบ ทั้งนี้ กระทรวงดีอีได้ผลักดันระบบ e-Document และ e-Office ให้เกิดการใช้งานในหน่วยงานรัฐทั่วประเทศผ่านคลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC) โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ช่วยลดความซ้ำซ้อนด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และส่งเสริมการทำงานแบบไร้กระดาษ (Paperless)
ต้นแบบสู่การขยายผลระดับประเทศ
ในครั้งนี้ กระทรวงดีอีได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเทศบาลเมืองปากช่อง ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่นำระบบ e-Document มาใช้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพงานบริการ เช่น การออกเอกสารสำคัญ การเก็บข้อมูลทะเบียน และการประสานงานระหว่างหน่วยงาน ระบบนี้ช่วยลดการใช้กระดาษ ลดค่าใช้จ่ายด้านเอกสาร และเพิ่มความปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมทั้งยกระดับการบริการประชาชนให้สะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส
ส่งเสริมเทคโนโลยีในชุมชนผ่านวิสาหกิจ
อีกหนึ่งจุดสำคัญของการลงพื้นที่คือการเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชน @ View Share Farm ตำบลวังหมี อำเภอวังน้ำเขียว ซึ่งบริหารโดยกลุ่มผู้พิการที่นำเทคโนโลยี Smart Farm และระบบโรงเรือนอัจฉริยะมาใช้ในการเกษตร เช่น การปลูกเมล่อนสายพันธุ์ Golden Pink และพืชผักสวนครัว บนพื้นที่ 2 ไร่
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) ผ่านกองทุน depa Digital Transformation Fund for Community ตั้งแต่ปี 2564 โดยนำเทคโนโลยีโรงเรือนและระบบน้ำอัตโนมัติมาประยุกต์ใช้ ช่วยเพิ่มคุณภาพผลผลิต ลดต้นทุนการผลิตได้อย่างเป็นรูปธรรมถึง 70% และลดแรงงาน นอกจากนี้ยังติดตั้งโซล่ารูฟท็อปเพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าใช้ในชุมชน
ดีป้ายังเตรียมสนับสนุนการใช้แพลตฟอร์มบริหารจัดการโฮมสเตย์ เช่น ระบบจองและการรับชำระเงิน เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบครบวงจร สร้างรายได้และโอกาสใหม่ให้ชุมชน
ความท้าทายด้านโครงสร้างพื้นฐาน
แม้โครงการจะประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่ยังมีปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สัญญาณอินเทอร์เน็ตและระบบสาธารณูปโภคในบางพื้นที่ ซึ่งกระทรวงดีอีกำลังประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไข
นายประเสริฐเน้นย้ำว่า กระทรวงดีอีพร้อมขับเคลื่อนการพัฒนาดิจิทัลในระดับภูมิภาค ด้วยการวางโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย สร้างระบบนิเวศดิจิทัล และพัฒนาทุนมนุษย์ เพื่อต่อยอดสู่การสร้างอาชีพและรายได้ สร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงเทคโนโลยี พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างยั่งยืน