ดีอี เตือนภัยบัญชีปลอมแอบอ้าง “ธ.ก.ส.-กสิกร” ปล่อยกู้ผ่าน TikTok เสี่ยงสูญเงิน-ข้อมูลส่วนตัว

Share

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เตือนประชาชนให้ระมัดระวังข่าวปลอมที่กำลังแพร่ระบาดบนสื่อสังคมออนไลน์ หลังตรวจพบกรณีแอบอ้างชื่อธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารกสิกรไทย โดยหลอกให้ประชาชนลงทะเบียนขอสินเชื่อผ่านแพลตฟอร์ม TikTok ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียทรัพย์สินและข้อมูลส่วนตัว

พบข่าวปลอม “ธ.ก.ส. ร่วมกับ กสิกร ปล่อยสินเชื่อผ่าน TikTok” อันดับ 1 ของสัปดาห์

นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (BDE) และโฆษกกระทรวงดีอี เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ทำการมอนิเตอร์ข่าวปลอมที่ถูกแชร์บนโลกออนไลน์ระหว่างวันที่ 31 มกราคม – 6 กุมภาพันธ์ 2568 โดยตรวจพบข้อความทั้งหมด 831,692 ข้อความ ในจำนวนนี้มี 418 ข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ

ทั้งนี้ ข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุดในช่วงเวลาดังกล่าว ได้แก่ ข่าว “ธ.ก.ส. ร่วมกับ กสิกร ปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือลูกหนี้ ลงทะเบียนผ่าน TikTok” ซึ่งแพร่กระจายในวงกว้าง ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากเกิดความเข้าใจผิดและอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

นอกจากนี้ ยังพบข่าวปลอมในลักษณะเดียวกันอีกหลายกรณี เช่น

  • ข่าวอันดับ 2 : ธ.ก.ส. ปล่อยสินเชื่อผ่าน TikTok ชื่อ baacthailand09
  • ข่าวอันดับ 3 : ธนาคารออมสิน เปิดบัญชี TikTok ชื่อ polkigukkrd
  • ข่าวอันดับ 4 : ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดบัญชีไลน์ชื่อ เจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีการเงิน
  • ข่าวอันดับ 5 : กรมส่งเสริมการเกษตร เปิดบัญชี TikTok ชื่อ agriculturalextension_11

ข่าวเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างของข่าวปลอมที่ถูกแชร์อย่างแพร่หลาย และอาจสร้างความเสียหายแก่ประชาชนที่หลงเชื่อ

ดีอีย้ำ “ธ.ก.ส. – กสิกร” ไม่มีโครงการสินเชื่อผ่าน TikTok

จากการประสานงานระหว่างกระทรวงดีอี ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และกระทรวงการคลัง พบว่าข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อผ่าน TikTok เป็นข่าวปลอม โดย ธ.ก.ส. ไม่มีโครงการปล่อยสินเชื่อร่วมกับธนาคารกสิกรไทย ผ่านบัญชี TikTok ใดๆ ทั้งสิ้น โดยเฉพาะบัญชีที่ใช้ชื่อ “ksikrzehbl9kbank” ซึ่งเป็นบัญชีปลอมที่ถูกมิจฉาชีพสร้างขึ้นเพื่อหลอกลวงประชาชน

ขณะนี้ ทางธนาคารได้ดำเนินการแจ้งระงับบัญชีดังกล่าวแล้ว พร้อมเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และให้ตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ก่อนทำธุรกรรมทางการเงินใดๆ

ความเสี่ยงจากการหลงเชื่อข่าวปลอม

กระทรวงดีอีเน้นย้ำว่า หากประชาชนหลงเชื่อและทำธุรกรรมกับบัญชีปลอม อาจส่งผลกระทบร้ายแรง เช่น

  • สูญเสียเงิน : มิจฉาชีพอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมปลอม หรือให้โอนเงินเป็นค่าใช้จ่ายก่อนอนุมัติสินเชื่อ
  • ข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล : ผู้ที่กรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขบัตรประชาชนหรือบัญชีธนาคาร อาจถูกนำไปใช้ในทางมิชอบ เช่น สมัครสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • ความเสียหายทางกฎหมาย : การแชร์ข่าวปลอมโดยไม่ตรวจสอบ อาจส่งผลกระทบทางกฎหมายและสร้างความเข้าใจผิดในสังคม

ดีอีแนะประชาชนตรวจสอบก่อนแชร์

กระทรวงดีอีเตือนว่า การแพร่กระจายของข่าวปลอมอาจส่งผลเสียต่อสังคมในวงกว้าง ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการแชร์ข่าวที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ ควรติดตามข้อมูลจากแหล่งข่าวทางการ เช่น เว็บไซต์หรือเพจของธนาคารและหน่วยงานรัฐโดยตรง เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพบนโลกออนไลน์

หากพบเห็นข่าวที่น่าสงสัย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดีอี ผ่านช่องทาง Line Official หรือ Social Listening เพื่อช่วยกันป้องกันและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากอาชญากรรมออนไลน์