อนาคตธุรกิจอาหารไทย “โตต่อไม่หยุด” ด้วยพลังคนรุ่นใหม่และเทคโนโลยี

อนาคตธุรกิจอาหารไทย “โตต่อไม่หยุด” ด้วยพลังคนรุ่นใหม่และเทคโนโลยี
Share

ธุรกิจอาหารไทยยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีศักยภาพสูง แม้จะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ยังมีความเปราะบางก็ตาม ภาพอนาคตที่สดใสนี้ถูกฉายให้เห็นอย่างชัดเจนในงาน “makro HoReCa 2025” โดยเฉพาะบนเวทีเสวนา “HoReCa Trend Talk” ซึ่งได้นำเสนอแนวคิดหลักคือ “Food Infinity – ธุรกิจอาหารโตไม่สิ้นสุด”

 

การเติบโตท่ามกลางความท้าทาย

นายธนิศร์ เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าส่ง บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ได้ให้มุมมองเชิงลึกว่า ตราบใดที่อาหารยังคงเป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิต ธุรกิจอาหารย่อมไม่มีวันหยุดนิ่ง จากข้อมูลของแม็คโครที่ปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่ม HoReCa ทั่วประเทศกว่า 550,000 ราย ครอบคลุมตั้งแต่ร้านอาหารสตรีทฟู้ดไปจนถึงโรงแรมขนาดกลาง ตัวเลขที่น่าสนใจคือ การเพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (อายุ 18-22 ปี) ถึงกว่า 8% จากปีก่อน

ผู้ประกอบการรุ่นเยาว์เหล่านี้เป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญของตลาด พวกเขามีความโดดเด่นด้านความคิดสร้างสรรค์และการใช้เทคโนโลยีอย่างเต็มที่ เห็นได้จากโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ เช่น ร้านฟิวชันคาเฟ่ หรือร้านเดลิเวอรี 100% ที่สามารถสร้างยอดขายหลักแสนบาทต่อเดือนได้อย่างน่าทึ่ง สะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัวเพื่อสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในทุกสถานการณ์ของผู้ประกอบการไทย

 

3 กลุ่มร้านอาหารดาวรุ่ง ตอบโจทย์ประสบการณ์ใหม่

จากการวิเคราะห์ Big Data ของแม็คโคร พบว่า 3 กลุ่มธุรกิจร้านอาหารที่เติบโตเร็วที่สุด สะท้อนความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่แสวงหาประสบการณ์ใหม่และคุณค่าทางอารมณ์จากการรับประทานอาหาร:

  1. Casual Dining & Cloud Kitchen (+28%): ร้านอาหารไทยสไตล์ร่วมสมัยที่ให้ความสำคัญกับการสร้างคอนเทนต์และการใช้ช่องทางเดลิเวอรี
  2. ร้านชาบูและหม้อไฟ (+25%): ยังคงครองใจผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย ด้วยจุดเด่นด้านความคุ้มค่าและความหลากหลายของเมนู
  3. ร้านกาแฟ (Specialty Coffee) และเบเกอรี่ (+25%): เน้นการลงทุนในวัตถุดิบเฉพาะทาง และการออกแบบร้านที่สวยงามเพื่อส่งเสริมการถ่ายภาพและแชร์ต่อในโซเชียลมีเดีย

 

กลยุทธ์ของแม็คโคร จากสินค้าถึงบริการครบวงจร

เพื่อสนับสนุนการเติบโตของผู้ประกอบการอย่างเป็นรูปธรรม แม็คโครได้พัฒนาตัวเองให้เป็น “โซลูชันพาร์ทเนอร์” ครอบคลุมตั้งแต่การเข้าถึงวัตถุดิบไปจนถึงการบริหารจัดการธุรกิจ

  • ด้านผลิตภัณฑ์: มีการพัฒนาแบรนด์สินค้าในเครืออย่าง aro และ savepak เพื่อให้ร้านอาหารเข้าถึงวัตถุดิบคุณภาพสูงในราคาที่เหมาะสม อีกทั้งยังต่อยอดสินค้ากลุ่ม Ready to Eat / Cook / Bake (RTE/RTC/RTB) เพื่อช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานและช่วยรักษาคุณภาพอาหารให้คงที่
  • ด้านบริการและเทคโนโลยี: แพลตฟอร์ม makro PRO มียอดสั่งซื้อจากกลุ่ม HoReCa เพิ่มขึ้นกว่า 27% นอกจากนี้ยังมีการขยายรถจัดส่งทั่วประเทศกว่า 3,600 คัน พร้อมบริการด่วน 3 ชั่วโมง และเตรียมเปิดบริการจัดส่งช่วงเช้า เพื่อให้ร้านอาหารได้รับสินค้าสดใหม่ทันเริ่มงาน

นอกจากนี้ แม็คโครยังได้ดำเนินโครงการ “แม็คโคร ยืนหยัดให้คุณยิ้มได้” เพื่อเคียงข้างผู้ประกอบการในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดเวิร์กชอปพัฒนาเมนูใหม่ หรือการเปิดโอกาสให้วางขายสินค้าในสาขา เป็นการช่วยเพิ่มกำไรและสร้างความเข้มแข็งในระยะยาว

 

มุมมองสู่อนาคตที่ไร้ขีดจำกัด

นายธนิศร์ได้ทิ้งท้ายว่า “ในโลกของธุรกิจอาหาร โอกาสอยู่รอบตัวทุกคน” การเสวนา “HoReCa Trend Talk” ปี 2025 จึงเป็นเครื่องตอกย้ำว่าธุรกิจอาหารไทยมีศักยภาพมหาศาล และด้วยการผนึกกำลังของพลังคนรุ่นใหม่ นวัตกรรมเทคโนโลยี และความร่วมมือสนับสนุนจากพันธมิตรอย่างแม็คโคร จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่แท้จริงให้ “ธุรกิจอาหารโตได้ไม่สิ้นสุด” สอดคล้องกับแนวคิด Food Infinity ที่เป็นหัวใจของการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารไทยในอนาคต

เอมิเรตส์ กรุ๊ป ทุบสถิติกำไรครึ่งปีแรก ทำผลงานสูงสุดในประวัติศาสตร์ต่อเนื่องเป็นปีที่สี่