โครงการ Siriraj x MIT Hacking Medicine 2025 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และ MIT Hacking Medicine ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในการจัดงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยสามารถดึงดูดผู้สมัครที่มีคุณภาพกว่า 1,000 คน จาก 33 สัญชาติ และคัดเลือกผู้เข้าแข่งขันมากกว่า 200 คน มาร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมพลิกโฉมวงการแพทย์
งานนี้ได้ตอกย้ำถึงเป้าหมายในการเปลี่ยนสนามแฮกกาธอนให้เป็นเวทีสำหรับผู้เชี่ยวชาญ โดยพบว่า 66% ของผู้เข้าแข่งขันเป็นวัยทำงานที่มีประสบการณ์จากหลากหลายสาขา ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ วิศวกร นักพัฒนาซอฟต์แวร์ และนักธุรกิจ
ศ. นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เปิดเผยว่า จำนวนผู้เข้าร่วมงานทั้งกลุ่มผู้เข้าแข่งขัน เมนเทอร์ผู้ให้คำปรึกษา และวิทยากรเพิ่มขึ้นจากปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนความสนใจของนานาประเทศ เช่น เมียนมา อินโดนีเซีย สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และจีน
นวัตกรรมผู้ชนะ ทางออกสำหรับโรคเรื้อรังและสุขภาพจิต
ผลการแข่งขันแฮกกาธอนปีนี้ ได้ผลงานที่น่าสนใจจาก 2 หัวข้อหลัก:
-
หัวข้อโรคเรื้อรัง (Chronic Diseases):
-
รางวัลชนะเลิศ: ทีม “Unreliable LLM” พัฒนาแพลตฟอร์มฟื้นฟูสุขภาพนอกโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
-
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1: ทีม “Ruj.ai” พัฒนาผ้าปิดตาอัจฉริยะที่ผสานการตรวจต้อหินเข้ากับกิจวัตรการนอนหลับของผู้ป่วยเบาหวาน
-
-
หัวข้อสุขภาพจิต (Mental Health):
-
รางวัลชนะเลิศ: ทีม “KoQo” สร้างแอปพลิเคชันที่ใช้ AI ช่วยสนับสนุนผู้ดูแลและครอบครัวให้รับมือกับผู้มีภาวะออทิซึม
-
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1: ทีม “QuitBuddy” เสนอประสบการณ์ใหม่ในการเลิกบุหรี่ไปพร้อมกับคนที่คุณรัก
-
นอกจากนี้ ผู้ชนะประเภทบุคคล 3 ท่าน ยังได้รับสิทธิ Golden Ticket เข้าร่วมการแข่งขัน MIT Grand Hack 2026 ที่เมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา
ต่อยอดไอเดียสู่ธุรกิจสตาร์ทอัพ ด้วย “Beyond Hack”
ความพิเศษในปีนี้คือการจัดกิจกรรม “Beyond Hack Day” ทันทีหลังการแข่งขัน เพื่อสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัด “มาสเตอร์คลาส” ด้านการแพทย์, ปัญญาประดิษฐ์ (AI), และธุรกิจสตาร์ทอัพ พร้อมจัดช่วงเวลาให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัวจากผู้เชี่ยวชาญกว่า 30 ท่าน
ศ. นพ. ดร.ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช กล่าวว่า ทั้งศิริราชและ MIT Hacking Medicine ยังเตรียมจัดกิจกรรมต่อเนื่องตลอดปี 2569 เช่น Beyond Hack Fireside Chat และ Spark AI เพื่อบ่มเพาะสตาร์ทอัพด้านเฮลธ์แคร์ให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม โดยมุ่งมั่นขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็น ศูนย์กลางนวัตกรรมวงการเฮลธ์แคร์ อย่างแท้จริง
งานยังปิดท้ายด้วยการประชุมวิชาการ “AI Today, Transforming Tomorrow’s Healthcare” ที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญระดับโลกและผู้บริหารระดับสูงกว่า 250 ท่าน จากแวดวงการแพทย์ วิศวกรรม และธุรกิจ เช่น Prof. Eric Grimson จาก MIT และ Prof. Michael McConnell จาก Stanford University เพื่อเสวนาถึงความเป็นไปได้ในการนำ AI มาปฏิรูปสุขภาพในอนาคต