โรงพยาบาลวิมุต เผยผลลัพธ์การดูแลผู้ป่วยปี 2568 พบกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) และออฟฟิศซินโดรมยังครองแชมป์คนเมือง ชี้ปัจจัยเศรษฐกิจ-ฝุ่น PM2.5 เป็นตัวเร่งวิกฤตสุขภาพ พร้อมเปิดยุทธศาสตร์ปี 2569 รุกสร้างศูนย์ความเป็นเลิศ (Excellence Centers) ครบวงจร มุ่งเปลี่ยนทัศนคติคนไทยจากการ “รักษา” เป็นการ “ป้องกัน” เพื่อลดต้นทุนชีวิตในระยะยาว
นายแพทย์สุวาณิช เตรียมชาญชูชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต เปิดเผยว่า จากภาพรวมผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในปี 2568 พบว่าพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เร่งรีบภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพคนไทยอย่างมีนัยสำคัญ โดยผลการจัดอันดับ 5 กลุ่มโรคยอดฮิตปี 2568 ได้แก่
-
โรคความดันโลหิตสูง
-
โรคเบาหวาน
-
ภาวะไขมันในเลือดสูง
-
โรคหวัดและโรคทางเดินหายใจ (ผลกระทบจากอากาศและ PM2.5)
-
กลุ่มอาการออฟฟิศซินโดรม
“3 อันดับแรกคือกลุ่มโรค NCDs ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงเชิงโครงสร้างของประเทศ เพราะเป็นโรคที่แฝงตัวเงียบและส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อสมรรถภาพการทำงานของประชากร โดยมีสาเหตุหลักจากความเครียดสะสม การบริโภคอาหารสำเร็จรูป และการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ขณะที่ปัจจัยภายนอกอย่างฝุ่น PM2.5 ได้กลายเป็นตัวกระตุ้นหลักที่ทำให้โรคระบบทางเดินหายใจเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจนในปีที่ผ่านมา” นายแพทย์สุวาณิช กล่าว
กางโรดแมปปี 2569 ยกระดับ 6 ศูนย์เฉพาะทาง รับมือสังคมสูงวัยและโรคคนเมือง
เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายที่ซับซ้อนขึ้นในปี 2569 โรงพยาบาลวิมุตได้วางยุทธศาสตร์เชิงรุกผ่านการดำเนินงานของศูนย์ความเป็นเลิศที่สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้ป่วย ดังนี้:
-
รับมือวิกฤตสิ่งแวดล้อมและโรคเรื้อรัง: เดินหน้าพัฒนา ศูนย์สุขภาพปอด เพื่อดูแลปัญหาจากมลพิษทางอากาศ, ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด เพื่อคัดกรองความเสี่ยงจากโรคความดัน-ไขมัน และ ศูนย์กระดูกและข้อ เพื่อรักษาอาการออฟฟิศซินโดรมและโรคข้อเสื่อมในผู้สูงอายุ
-
รุกตลาดสุขภาพปี 2569: เตรียมเปิด 3 ศูนย์ใหม่ ได้แก่ ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ (ตอบโจทย์พฤติกรรมการกินและโรคจากความเครียด), ศูนย์สมอง (รองรับสังคมผู้สูงอายุและโรคระบบประสาท) และ ศูนย์สุขภาพสตรี (การดูแลแบบองค์รวมเฉพาะบุคคล)
“การตรวจสุขภาพคือการลงทุน” หัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
โรงพยาบาลวิมุตตระหนักดีว่า ท่ามกลางค่าครองชีพที่สูงขึ้น ประชาชนอาจมองว่าการตรวจสุขภาพเป็นภาระ แต่ในความเป็นจริง “สุขภาพคือต้นทุนสำคัญของประสิทธิภาพเศรษฐกิจ”
“เราต้องการเปลี่ยน Mindset ของคนไทยให้มองว่าการตรวจสุขภาพประจำปีคือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด ยิ่งพบเร็ว ยิ่งป้องกันได้ ค่าใช้จ่ายในการรักษาก็จะต่ำกว่าการรักษาเมื่อลุกลามแล้วหลายเท่าตัว รพ.วิมุตจึงมุ่งมั่นที่จะเป็นมากกว่าโรงพยาบาล แต่เป็นคู่คิดด้านสุขภาพที่ช่วยให้คนไทยมีความพร้อมในการเผชิญหน้ากับความท้าทายในอนาคต” นายแพทย์สุวาณิช กล่าวสรุป
โรงพยาบาลวิมุตพร้อมเดินหน้าลงทุนทั้งด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์และทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ในการดูแลสุขภาพคนไทยอย่างยั่งยืน โดยมุ่งหวังให้การรักษาเชิงป้องกันเป็นรากฐานสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในปี 2569 และปีต่อๆ ไป