กสทช. ร่วมผู้เชี่ยวชาญ วางแนวปฏิบัติใช้สัตว์ในสื่อ ยกระดับจริยธรรม ป้องกันเหตุซ้ำรอย

Share

สำนักงาน กสทช. จัดเวทีสัมมนาในหัวข้อ “ดาราสัตว์ในสื่อ นำเสนออย่างไร ไม่ละเมิดจริยธรรม” โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา อาทิ สัตวแพทย์ ผู้แทนสัตวแพทยสภา นักมานุษยวิทยา และผู้แทนองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน มาร่วมถกเถียงแนวทางการปฏิบัติที่เหมาะสมในกรณีการใช้สัตว์ในอุตสาหกรรมบันเทิง หลังเกิดกรณีวางยาสลบแมวเพื่อถ่ายทำละคร ซึ่งนำมาซึ่งกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวาง

กรณีศึกษาและความอ่อนไหวทางสังคม
เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจต่อประชาชนและกระตุ้นให้เกิดคำถามต่อการดูแลสวัสดิภาพของสัตว์ในอุตสาหกรรมสื่อ ศ.กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กสทช.ด้านกิจการโทรทัศน์ ระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์ในสังคมไทยเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและอ่อนไหว การกระทำใด ๆ ที่กระทบต่อสวัสดิภาพสัตว์จึงไม่ควรถูกมองข้าม พร้อมย้ำว่า กสทช. ไม่ได้มุ่งเพียงบทลงโทษ แต่ต้องการใช้เหตุการณ์เหล่านี้เป็นบทเรียนในการพัฒนามาตรฐานของสื่อ

“เรากำลังร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญจากหลายองค์กรเพื่อสร้างแนวปฏิบัติที่คำนึงถึงความปลอดภัยของสัตว์ในกระบวนการผลิตสื่อ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้สื่อและสังคมสามารถเรียนรู้ร่วมกัน” ศ.กิตติคุณ ดร.พิรงรอง กล่าว

มาตรการที่จำเป็นสำหรับการถ่ายทำ
รศ. น.สพ.ดร.สุดสรร ศิริไวทยพงศ์ จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายว่า การใช้สัตว์ในกองถ่ายจำเป็นต้องมีมาตรการที่ครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การตรวจสุขภาพสัตว์ก่อนเข้าฉาก การจัดการขนส่งที่เหมาะสม ไปจนถึงการดูแลในสถานที่ถ่ายทำ เช่น การจัดพื้นที่พักผ่อนที่ปลอดภัยและเหมาะสมสำหรับสัตว์

นอกจากนี้ การให้ยาหรือสารต่าง ๆ กับสัตว์ที่อาจส่งผลต่อร่างกายถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องดำเนินการภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์เท่านั้น โดยเฉพาะการใช้ยาสลบซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพสัตว์ เช่น การสำรอกหรือสำลักจนปิดกั้นทางเดินหายใจ

รศ. น.สพ.ดร.สุดสรร ยังเสนอว่า ผู้ผลิตสื่อควรพิจารณาทางเลือกที่สร้างสรรค์ เช่น เทคนิคการตัดต่อหรือใช้เทคโนโลยี CGI เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจกระทบต่อสวัสดิภาพสัตว์โดยไม่จำเป็น

มุมมองจากอุตสาหกรรมและบทเรียนจากต่างประเทศ
นางสาวษมาวีร์ พุ่มม่วง ผู้มีประสบการณ์ในกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ เปิดเผยว่า กองถ่ายในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา มีมาตรการที่เข้มงวด โดยมีตำแหน่งเฉพาะที่เรียกว่า animal wrangler ทำหน้าที่ดูแลสัตว์อย่างใกล้ชิด พร้อมหน่วยงานอิสระ เช่น American Humane Association ที่คอยสังเกตการณ์และประเมินความเสี่ยง

ในขณะที่กองถ่ายในไทยยังขาดมาตรฐานที่ชัดเจนและการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ส่งผลให้เกิดช่องว่างที่อาจนำไปสู่การละเมิดสวัสดิภาพสัตว์

ความสำคัญของการตื่นตัวในสังคม
ผศ. ดร.จิราพร เหล่าเจริญวงศ์ นักมานุษยวิทยา กล่าวถึงความจำเป็นในการตั้งคำถามเกี่ยวกับบทบาทและจริยธรรมของมนุษย์ต่อสัตว์ในอุตสาหกรรมบันเทิง โดยชี้ให้เห็นว่า ภาพจำในสื่อที่ปรากฏซ้ำ ๆ อาจทำให้ผู้ชมรู้สึกชินชาและละเลยผลกระทบต่อสัตว์

“สวัสดิภาพของสัตว์ควรเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถตั้งคำถามได้ ไม่ใช่แค่ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะประเด็นนี้สะท้อนจริยธรรมและความเป็นไปของสังคมในแต่ละยุคสมัย” ผศ. ดร.จิราพร กล่าว

แนวทางในอนาคต
นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี นายกสมาคมสภาวิชาชีพกิจการการแพร่ภาพและการกระจายเสียง (ประเทศไทย) ย้ำว่าการจัดทำแนวปฏิบัติเพื่อการใช้สัตว์ในรายการและละครเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน โดยต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน รวมถึงผู้ผลิตเนื้อหา สื่อมวลชน และภาคประชาสังคม เพื่อให้ได้แนวทางที่เหมาะสม

“ความตื่นตัวของสังคมเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ช่วยให้การกำกับดูแลด้านจริยธรรมสามารถเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง” นายชวรงค์ กล่าว

การสัมมนาครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างมาตรฐานใหม่ในการใช้สัตว์ในอุตสาหกรรมบันเทิงของไทย เพื่อให้สื่อสามารถสร้างความบันเทิงควบคู่ไปกับการเคารพสวัสดิภาพของสัตว์อย่างยั่งยืน.