AOC 1441 เตือนภัย “โจรออนไลน์” อ้างหน่วยงานรัฐ ข่มขู่-ติดตั้งแอปดูดเงิน-หลอกลงทุน สูญเงินกว่า 1 ล้านบาท

Share

นางสาววงศ์อะเคื้อ บุญศล โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 14-20 ตุลาคม 2567 ศูนย์ AOC 1441 (Anti Online Scam Operation Center) ได้มีการรายงานเคสตัวอย่างเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ที่มีผลกระทบต่อประชาชน จำนวน 5 เคส รวมความเสียหายทั้งสิ้นกว่า 1.35 ล้านบาท โดยในแต่ละเคสมีวิธีการหลอกลวงที่หลากหลาย อาทิ การข่มขู่ทางโทรศัพท์ การหลอกลงทุน และการติดตั้งแอปพลิเคชันที่มีอันตราย

คดีที่ 1: คดีข่มขู่ทางโทรศัพท์ (สูญเงิน 161,037 บาท)
ในกรณีแรก ผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากธนาคารแจ้งว่ามีการใช้ข้อมูลส่วนตัวของตนในการทำสิ่งผิดกฎหมาย และได้ถูกโอนสายไปยังบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งได้ข่มขู่ให้ผู้เสียหายโอนเงินเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน เมื่อผู้เสียหายรู้สึกกลัวจึงโอนเงินไป แต่เมื่อทำรายการเสร็จสิ้นกลับไม่สามารถติดต่อได้อีก

คดีที่ 2: คดีหลอกลวงหารายได้พิเศษ (สูญเงิน 473,523 บาท)
ผู้เสียหายได้รับข้อความผ่าน Facebook ชักชวนให้ลงทุนเปิดร้านค้าบนออนไลน์ โดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูง หลังจากทำการลงทุนและได้ผลกำไร จึงได้ลงทุนเพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อพยายามถอนเงินกลับไม่สามารถทำได้ เนื่องจากไม่สามารถติดต่อผู้มิจฉาชีพได้อีก

คดีที่ 3: คดีหลอกลวงลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ (สูญเงิน 195,862 บาท)
ผู้เสียหายถูกติดต่อผ่าน Facebook เพื่อชักชวนให้ลงทุนเทรดหุ้นทองคำ โดยมีข้อเสนอที่ดึงดูดใจ แต่เมื่อทำการลงทุนแล้วก็พบว่าต้องโอนเงินเพิ่มเพื่อแก้ไขข้อมูล ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินไปอีก จนสุดท้ายก็ไม่สามารถติดต่อได้

คดีที่ 4: คดีติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบ (สูญเงิน 410,655 บาท)
ในกรณีนี้ มิจฉาชีพได้ติดต่อผ่านโทรศัพท์ อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และได้ส่งลิงก์ให้ติดตั้งแอปพลิเคชัน พร้อมขอให้ผู้เสียหายสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน แต่หลังจากติดตั้ง แอปพลิเคชันกลับดูดเงินในบัญชีไปอย่างเงียบ ๆ

คดีที่ 5: คดีหลอกลวงขอยืมเงิน (สูญเงิน 113,000 บาท)
ผู้เสียหายถูกหลอกทางโทรศัพท์จากมิจฉาชีพที่อ้างว่าเป็นเพื่อนเก่าขอยืมเงินเพื่อจ่ายค่ารถ โดยระบุว่าแอปพลิเคชันธนาคารไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินให้ แต่หลังจากนั้นกลับพบว่าเพื่อนไม่ได้ซื้อรถและไม่ได้เปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์จริง ๆ

โดยรวมแล้ว ความเสียหายที่เกิดขึ้นจาก 5 คดีนี้ รวมกันถึง 1,354,077 บาท

นอกจากนี้ ศูนย์ AOC 1441 ยังรายงานสถิติการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ถึง 18 ตุลาคม 2567 ซึ่งมีผู้โทรเข้ามา 1,138,463 สาย หรือเฉลี่ยวันละ 3,225 สาย และมีการระงับบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับคดีจำนวน 348,006 บัญชี

นางสาววงศ์อะเคื้อ กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากตัวอย่างดังกล่าวชี้ให้เห็นว่ามิจฉาชีพมักใช้วิธีการหลอกลวงด้วยการอ้างชื่อหน่วยงานรัฐหรือบุคคลที่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้ยังมีการใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการติดต่อหลอกลวง โดยเฉพาะผ่าน Line และ Facebook”

เพื่อป้องกันการหลอกลวง ประชาชนควรยึดหลัก 4 ไม่ คือ

  1. ไม่กดลิงก์
  2. ไม่เชื่อ
  3. ไม่รีบ
  4. ไม่โอน

ก่อนทำธุรกรรมใด ๆ ควรตรวจสอบให้แน่ชัด และหากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามที่ศูนย์ AOC 1441 เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงได้ โดยกระทรวงดีอีได้เร่งดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเผยแพร่ความรู้ในการป้องกันภัยจากอาชญากรรมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง