สพธอ. (ETDA) ประกาศวิสัยทัศน์ปี 2569 มุ่งสร้าง “Digital Trust” เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยเน้นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและทุกภาคส่วนในการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัล
3 ยุทธศาสตร์หลักเพื่อสร้าง Digital Trust
สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA ได้เปิดเผยถึงแผนงานและเป้าหมายที่สำคัญสำหรับปี 2569 โดยมี 3 ยุทธศาสตร์หลักที่จะเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือในโลกดิจิทัล ได้แก่
1. เสริมความเชื่อมั่นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure and Ecosystem)
ETDA มุ่งเน้นการสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับธุรกรรมออนไลน์ โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนในปี 2569 ดังนี้:
- Digital ID: ตั้งเป้าเชื่อมโยงบริการภาครัฐด้วย Digital ID อย่างน้อย 1,464 บริการ และขยายผลการใช้งานในภาคเอกชน เช่น การท่องเที่ยวและแพลตฟอร์มดิจิทัล นอกจากนี้ยังจะส่งเสริมการใช้งานเอกสารรับรองดิจิทัล (VC) และกระเป๋าเอกสารดิจิทัล (Document Wallet) เพื่อให้ผู้ใช้งานสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น
- e-Document: สร้างมาตรฐานและความน่าเชื่อถือให้กับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ของทั้งภาครัฐและเอกชนผ่านการรับรอง e-Document, e-Signature และบริการ Trust Services อื่น ๆ
- AI & Data Sharing: ส่งเสริมให้มีการแบ่งปันข้อมูลระหว่างภาครัฐและเอกชนอย่างมีธรรมาภิบาล และนำร่องใช้ข้อมูลเพื่อพัฒนาบริการใหม่ ๆ ในกลุ่มธุรกิจที่สำคัญ เช่น การดูแลสุขภาพ การเงิน และการประกันภัย
- Cloud: สนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐเปลี่ยนผ่านระบบงานขึ้นสู่ระบบ Cloud ที่มีมาตรฐานตามนโยบาย Cloud First เพื่อรองรับการเป็นรัฐบาลดิจิทัล
2. เร่งเครื่อง AI ดันไทยสู่ศูนย์กลางภูมิภาค
ETDA เล็งเห็นถึงความสำคัญของ AI ในการขับเคลื่อนประเทศ จึงตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็น ศูนย์กลางด้านธรรมาภิบาล AI ของภูมิภาค โดยมีแผนงานดังนี้:
- AI Governance: เร่งจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการด้านธรรมาภิบาล AI แห่งภูมิภาค (AIGPC) และขยายการใช้ AI Governance Framework ไปยังหน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆ รวมถึงพัฒนาชุดโซลูชันใหม่ ๆ ร่วมกับผู้ให้บริการ
- AI Ethics Testing & Sandbox: พัฒนาแนวทางการทดสอบ AI โดยเฉพาะสำหรับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้งานเป็นไปอย่างรับผิดชอบ
- AI & Digital Transformation: ติดสปีด SMEs และชุมชนให้สามารถใช้ AI และเทคโนโลยีดิจิทัลในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่ต่าง ๆ โดยตั้งเป้าให้มี SMEs อย่างน้อย 1,000 รายใน 4 ภูมิภาค ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท
- AI Literacy & Protection: สร้างภูมิคุ้มกันให้คนไทยและกลุ่มเปราะบางรู้เท่าทันภัยดิจิทัล ผ่านเครือข่าย EDC Trainers ที่จะขยายความรู้ครอบคลุมกว่า 60,000 คน ทั่วประเทศ
3. ขยายกลไกร่วมกำกับ Digital Platform Services
เพื่อสร้างความมั่นใจในทุกคลิก ETDA จะเร่งพัฒนามาตรฐานและกลไกการกำกับดูแลเพิ่มเติมสำหรับแพลตฟอร์มดิจิทัล:
- Best Practices & Self-Regulation: จัดทำมาตรฐานเพิ่มเติมเพื่อส่งเสริมให้แพลตฟอร์มต่าง ๆ มีการกำกับดูแลตนเอง (Self-Regulation) อย่างเหมาะสม
- Incentive Mechanism: เพิ่มแรงจูงใจให้แพลตฟอร์มดิจิทัลปฏิบัติตามกฎหมาย DPS เช่น การออกเครื่องหมายรับรอง
- ผนวก 1212 ETDA: ยกระดับบทบาทของศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ 1212 ETDA ในการรับเรื่องร้องเรียน ให้คำแนะนำ และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาภัยออนไลน์อย่างเป็นระบบ
การดำเนินงานทั้งหมดนี้เป็นไปเพื่อเป้าหมายใหญ่ที่ ETDA ตั้งไว้คือ การทำให้สัดส่วนมูลค่าเพิ่มเศรษฐกิจดิจิทัลต่อ GDP เป็น 30% และให้ไทยติด 30 อันดับแรกของโลกที่มีความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัล ภายในปี 2570 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ ETDA ในการเป็น ‘Co-Creation Regulator & Facilitator’ หรือผู้กำกับดูแลและส่งเสริมที่ทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อให้ #คนไทยชีวิตดีเมื่อมีดิจิทัล อย่างแท้จริง