ออกจากลูปปวดหลัง! ด้วยการรักษาที่ยั่งยืน

Share

ปวดหลังซ้ำซาก!รักษาอาการปวดหลังไม่ชนะสักที อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้ ดังนั้นการรักษา ด้วยการค้นหาสาเหตุของโรคอย่างแท้จริง จะทำให้คุณอาจออกจากลูปปวดหลังได้

อาการปวดหลัง” หลายคนมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาตามวัฏจักรร่างกายของมนุษย์ แต่จะมีคนกลุ่มหนึ่งที่อาการปวดหลังไปกระทบการใช้ชีวิตประจำวัน จนทำให้ไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้เหมือนเดิม บางรายเมื่อมีอาการปวดหลัง ใช้วิธีทานยาและทำกายภาพ สุดท้ายก็กลับมาปวดอีกเหมือนเดิม

การรักษาที่ต้นเหตุเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ได้รักษาอาการปวดหลังที่ต้นเหตุ ก็จะติดอยู่กับการรักษาอาการปวดแบบเดิมๆที่ไม่สิ้นสุด ตั้งแต่การทำกายภาพบำบัด การรับประทานยา การฝังเข็ม แต่ไม่มีวิธีใด ที่จะช่วยให้หายจากอาการปวดได้อย่างถาวร เหมือนติดอยู่ในลูปของความเจ็บปวดที่ไม่มีวันสิ้นสุด บางรายมีโรคแทรกซ้อนอื่นเพิ่มขึ้น เช่น ซึมเศร้า อัมพฤกษ์ หรืออัมพาต

นพ.ชุมพล  คคนานต์ แพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลเอส สไปน์ เผยว่า เนื่องจาก “อาการปวดหลัง” มีสาเหตุจากหลายปัจจัย แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าอาการปวดหลังแบบไหนเข้าขั้นวิกฤต ในเรื่องนี้ข้อมูลจากโรงพยาบาลเอสสไปน์ โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังแห่งแรกในประเทศไทย พบว่าอาการปวดหลังเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ แต่ในบางครั้งก็ไม่สามารถระบุได้ว่า อาการปวดเกิดจากอะไร บางครั้งอาจเกิดจากการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ เช่นกล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บขณะเล่นกีฬา ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมต่างๆ แต่ก็มีผู้ป่วยบางรายที่ปวดหลังรุนแรงจนต้องเข้าพบแพทย์ ซึ่งการหาสาเหตุของอาการ ปวดหลังนั้นมีหลายวิธีการตรวจด้วยเครื่อง X-ray และ MRI เป็นวิธีการหาสาเหตุที่แม่นยำและตรงจุด เพราะจะทำให้เห็นว่าข้างในร่างกายของเรามีสิ่งผิดปกติหรือไม่ โดยส่วนใหญ่ที่พบจะเกิดจากหมอนรองกระดูก สันหลังปลิ้นกดทับเส้นประสาท,โพรงไขสันหลังตีบแคบ ข้อกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท หรือ กระดูกสันหลังคดรวมถึงโรคอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับกระดูกสันหลัง

การตรวจด้วยเครื่อง MRI จะต้องใช้ความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กแรงสูง เพื่อให้ปลอดภัยต่อการใช้งาน และด้วยข้อจำกัดทางด้านเทคนิคของการออกแบบเครื่อง MRI ทำให้พื้นที่ของการสแกนแคบ ผู้ป่วยอาจรู้สึกอึดอัดและเกิดภาวะกลัวที่แคบได้ ทั้งนี้การตรวจด้วยท่านอนอาจไม่พบความผิดปกติของรอยโรคในบางกรณี

ปัจจุบันเครื่อง MRI ที่มีอยู่ทั่วโลก ประมาณ 90% เป็นแบบอุโมงค์ ซึ่งต่างจากเครื่อง MRI แบบยืนที่มีจำนวนไม่มาก แต่ที่โรงพยาบาลเอส สไปน์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง ได้  เล็งเห็นประโยชน์ของเครื่อง MRI แบบยืน จึงนำมาใช้ในการตรวจผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านกระดูกสันหลัง ซึ่งมีเพียงเครื่องเดียวในประเทศไทย เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับผลการตรวจวินิจฉัยที่แม่นยำและตรงจุด แก้ปัญหาที่ต้นเหตุและเหมาะกับผู้ป่วยที่มีภาวะกลัวที่แคบ

 นพ.ชุมผล ยังเผยอีกว่า เคยเจอเคสผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังและชาลงบริเวณเท้าขวา ซึ่งผู้ป่วยมีอาการนี้มาเป็นเวลา 1 ปี รักษาที่อื่นมาก็อยู่ในลูปเดิมๆ คือปวดหลังไม่จบไม่สิ้น แต่เมื่อมารักษาที่   เอส สไปน์ แพทย์จึงทำการเอ็กซเรย์ร่วมกับการทำ MRI ก็พบว่าผู้ป่วยมีหมอนรองกระดูกระหว่าง L4-L5 ปลิ้นกดทับตัวเส้นประสาท นอกจากนี้ยังมีภาวะโพรงเส้นประสาทที่ตีบแคบด้วย ทำให้เส้นประสาท ถูกเบียดแทบจะสนิท ผู้ป่วยรายนี้เคยรักษาที่อื่นโดยใช้วิธีทานยาร่วมกับการทำกายภาพมาประมาณปีกว่า แต่มาที่รพ.เอส สไปน์ เราตัดสินใจใช้วิธีการผ่าตัดด้วยเทคนิค PSLD ปัจจุบันผู้ป่วยรายดังกล่าว อาการดีขึ้นตามลำดับซึ่งโดยรวมแล้วคิดเป็น 95%

ขณะที่คุณปภาดา หนึ่งในผู้ป่วยที่ได้ทำการรักษา 12,000 ราย ของรพ.เอส สไปน์ เผยว่า ตนเองทนทุกข์ทรมานกับอาการปวดหลังมานาน เหมือนหาทางออกของชีวิตไม่เจอ จนได้มารักษาที่ รพ.เอส สไปน์ เธอยอมรับว่า 1 คืนของเธอที่ได้รับการผ่าตัดจากที่นี่ ชีวิตเปลี่ยนจริงๆ จึงอยากเป็นเสียงสะท้อนให้กับผู้ป่วยรายอื่นๆ ว่าที่รพ.เอส สไปน์เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง ที่นอกจาก ความเชี่ยวชาญของแพทย์แล้ว ยังมีเครื่องไม้เครื่องมือที่ครบครัน และอยากให้ทุกคนลองมาปรึกษาแพทย์ดู

ที่ผ่านมาโรงพยาบาล เอส สไปน์ คือโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง แห่งแรกในประเทศไทย ที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในระยะเวลาเพียง 7 ปี ผ่าตัดผู้ป่วยกระดูกสันหลังไปมากกว่า 12,000 เคส เพราะให้ความสำคัญในเรื่องเทคโนโลยี เครื่องมือทางการแพทย์อย่างมาก เพราะเมื่อมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แล้ว เครื่องมือและเทคโนโลยีต่าง ๆ จะเข้ามาสนับสนุนและส่งเสริมการงานของแพทย์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ คือสิ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยทางโรงพยาบาลให้ความ สำคัญในการเลือกใช้เครื่องมือ และเทคโนโลยี ในการรักษาก่อให้เกิดประโยชน์ สูงสุดกับผู้ป่วยเป็นหลัก

นอกจากนี้การหาข้อมูลการรักษาที่ถูกต้อง การพบแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง จึงเป็นทางเลือกอีกวิธีหนึ่งที่จะทำคุณได้ทราบถึงสาเหตุของการรักษา การทำ X-ray และ MRI เพื่อค้นหาสาเหตุของอาการปวดหลัง อย่างตรงจุด พร้อมวางแผนการรักษาอย่างถูกต้อง จะทำให้ คุณกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ เหมือนกับการออกจากลูปของความเจ็บปวด ที่ช่วยให้คุณกลับไปใช้ชีวิต ได้อย่างเต็มที่ อย่าปล่อยให้ความเจ็บปวดกลายเป็นอุปสรรคในชีวิตของคุณอีกต่อไป