“ถุงสมุนไพรแช่เท้า” พลิกชีวิตชุมชนจากภูมิปัญญาท้องถิ่น สู่แผนธุรกิจเพื่อความยั่งยืน

Share

ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดของ Craft Idea ปีที่ 4 ภายใต้แนวคิด ‘Empower Social Enterprise’ ซึ่งมุ่งเน้นการปลดล็อกไอเดียสร้างสรรค์เพื่อยกระดับธุรกิจชุมชนสู่ความยั่งยืน ทีม “มะค่าทรัพย์ทวี” จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้สร้างความประทับใจให้กับคณะกรรมการด้วยแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ “ถุงสมุนไพรแช่เท้า” ที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่นในการนำสมุนไพรที่หาได้ในพื้นที่มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ปลอดภัยจากสารเคมี และสามารถช่วยบรรเทาอาการรองช้ำและผ่อนคลายร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จุดเริ่มต้นจากภูมิปัญญาสู่เวทีระดับชาติ

ถุงสมุนไพรแช่เท้าของชุมชนบ้านมะค่า หมู่ที่ 3 ตำบลมะค่า อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม มีต้นกำเนิดจากความรู้และประสบการณ์ที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นในชุมชน โดยสมาชิกของทีม “มะค่าทรัพย์ทวี” ได้เห็นถึงศักยภาพของผลิตภัณฑ์นี้และเล็งเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะนำภูมิปัญญานี้มาพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าในตลาดเพื่อสุขภาพ

ทีมได้ลงพื้นที่สำรวจและรวบรวมข้อมูลจากชุมชน พร้อมทำการวิจัยและพัฒนาสูตรสมุนไพรที่ใช้ในการผลิตถุงแช่เท้า ซึ่งประกอบด้วยสมุนไพรท้องถิ่นหลายชนิดที่มีสรรพคุณทางยา โดยเน้นให้ผลิตภัณฑ์ปลอดจากสารเคมีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

การสร้างธุรกิจเพื่อสังคม: จากไอเดียสู่การลงมือทำ

โครงการ ETDA Local Digital Coach (ELDC) ซึ่งจัดโดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาแผนธุรกิจของทีม โดยมุ่งเน้นการสร้างทักษะด้านดิจิทัลและการตลาดให้กับสมาชิกทีมเพื่อให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์สู่ตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ELDC ไม่ได้เพียงแค่เสริมสร้างทักษะด้านดิจิทัลให้กับทีม “มะค่าทรัพย์ทวี” แต่ยังเชื่อมโยงทีมกับวิสาหกิจชุมชนอื่นๆ เพื่อสร้างเครือข่ายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยในปีนี้มีทีมจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศกว่า 80 ทีมที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ เพื่อเข้ารับการอบรมและทำงานร่วมกับชุมชนในการพัฒนาแผนธุรกิจ

การแข่งขันที่นำไปสู่ความสำเร็จ

การแข่งขัน Craft Idea รอบ Final Pitching ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายองค์กรเข้าร่วมตัดสิน ทีม “มะค่าทรัพย์ทวี” ได้นำเสนอแผนธุรกิจที่มีความเป็นไปได้สูงและมีความคิดสร้างสรรค์ในการนำสมุนไพรท้องถิ่นมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ

แผนธุรกิจของทีม “มะค่าทรัพย์ทวี” ไม่เพียงแค่ได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการ แต่ยังเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาผนวกกับนวัตกรรมและการตลาดดิจิทัลเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ ทีมได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขัน พร้อมกับเงินรางวัล 100,000 บาท ซึ่งจะถูกนำไปต่อยอดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และขยายตลาดให้กว้างขึ้น

การต่อยอดที่ไม่มีที่สิ้นสุด

ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA ได้กล่าวถึงความสำคัญของการพัฒนาคนรุ่นใหม่ให้มีทักษะด้านดิจิทัลและความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาธุรกิจเพื่อสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนท้องถิ่นที่มีศักยภาพในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า โครงการ ELDC ได้มุ่งเน้นการเสริมสร้างกำลังคนในระดับพื้นที่มาโดยตลอด เพื่อให้ชุมชนต่างๆ สามารถเติบโตอย่างยั่งยืน

“Craft Idea ปีนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงพลังของชุมชน ที่จะสามารถนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาพัฒนาเป็นธุรกิจที่มีความยั่งยืนและสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้อย่างแท้จริง” ดร.ชัยชนะ กล่าว

การได้รับรางวัลในครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของทีม “มะค่าทรัพย์ทวี” ในการเดินทางสู่การเป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่มีความยั่งยืน ด้วยความมุ่งมั่นและการสนับสนุนจากโครงการ ETDA ทีมเชื่อมั่นว่าจะสามารถนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนในระดับประเทศต่อไป