นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามนโยบายของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยเน้นการจัดการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผ่านมาตรการป้องกัน ตรวจสอบ และปราบปรามบัญชีม้า ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญที่มิจฉาชีพใช้ในการรับเงินจากการหลอกลวง
กระทรวงดีอี โดยศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC 1441) ได้ดำเนินการอย่างเข้มข้นในการระงับบัญชีม้าเพื่อตัดวงจรทางการเงินของกลุ่มมิจฉาชีพ โดยมีสถิติการระงับบัญชีม้า ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568 รวมทั้งสิ้น 582,548 บัญชี และเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2568 (1 มกราคม – 31 มีนาคม 2568) สามารถระงับบัญชีม้าได้ถึง 135,279 บัญชี (ไม่รวมสถิติการระงับหรืออายัดบัญชีม้าของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และธนาคารพาณิชย์ที่ดำเนินการเอง)
นอกจากนี้ กระทรวงดีอี ยังได้ขยายผลการจับกุมผู้ที่เป็นเจ้าของบัญชีม้าอย่างต่อเนื่อง โดยมีสถิติผลการจับกุมผู้กระทำความผิดตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2568 รวมทั้งสิ้น 869 ราย แบ่งเป็น
- เดือนมกราคม 2568: 219 ราย
- เดือนกุมภาพันธ์ 2568: 325 ราย
- เดือนมีนาคม 2568: 325 ราย
รวมสถิติผลการจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับบัญชีม้าและซิมม้า ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ถึงมีนาคม 2568 เป็นจำนวนทั้งหมด 5,399 ราย
อย่างไรก็ตาม กระทรวงดีอี ได้ย้ำเตือนประชาชนอย่างหนักแน่นว่า ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า ไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด โดยพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 มาตรา 9 กำหนดโทษของการยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝาก หรือบัญชีม้า ว่า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจถูกดำเนินคดีในฐานะตัวการร่วม หรือผู้สนับสนุน หากมิจฉาชีพนำบัญชีดังกล่าวไปใช้ในการกระทำความผิด รวมถึงอาจถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งจากผู้เสียหายอีกด้วย
ดังนั้น หากประชาชนท่านใดที่หลงเชื่อขายบัญชีธนาคารให้กับผู้อื่นไปแล้ว ขอให้รีบติดต่อธนาคารเพื่อดำเนินการปิดบัญชีดังกล่าวโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้มีรายชื่ออยู่ในบัญชีผู้ขายบัญชีม้า และถูกระงับบัญชีธนาคารทั้งหมดที่มี รวมถึงไม่ให้ถูกดำเนินคดีในฐานะผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของมิจฉาชีพ